เมื่อวันที่ 2 พ.ค. น.ส.สิริลภัส กองตระการ พรรคก้าวไกล หรือหมิว ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 14 พรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีดีเบต สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” ซึ่ง มติชน x เดลินิวส์ ร่วมจัดขึ้นที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ในรอบเวทีที่ 1 Young blood วัดอนาคต ว่า ตนก้าวเข้าสู่สนามการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะได้เห็นความเหลื่อมล้ำ ได้เห็นชีวิตจริงยิ่งกว่าละครที่ได้เคยเล่นมา ตอนที่ได้ทำหน้าที่พิธีกรรายการหนึ่ง ได้เห็นเด็กที่หลุดออกจากวงโคจรการศึกษา เพราะที่บ้านไม่มีเงินส่งเสีย ได้เห็นบ้านหนึ่งที่ต้องทำงานเก็บเงินทั้งเดือนเพื่อเช่ารถหนึ่งคัน พาลูกที่ป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาลหัวเมือง ไปเจอน้องชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตกับพ่อที่ป่วยติดเตียง และจับได้ใบแดงเข้าเป็นทหาร เราจึงเกิดคำถามที่ว่าทำไมภาษีที่เราจ่ายไป จึงไม่ได้กลับมาสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เพื่อรองรับระบบสาธารณูปโภค การศึกษา และสาธารณสุขให้กับคนไทย ภาษีที่เราเสียไปแต่ละปีเป็นล้านๆ บาท ทำไมจึงผันกลับมาเป็นสวัสดิการที่ดีให้คนไทยที่เป็นเจ้าของภาษีไม่ได้

น.ส.สิริลภัส กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนเป็นนักแสดง ตนออกมาคอลเอาต์ จึงทำได้แค่พูด ซึ่งเป็นเสียงที่ดังกว่าชาวบ้าน แต่ถ้าได้ก้าวเข้าไปเป็น ส.ส.ในสภา ตนมั่นใจว่าจะสามารถเป็นตัวแทนประชาชน พูดให้ทรงพลัง พูดให้เสียงดังที่สุด พูดเรื่องความลำบากปากท้องของประชาชนในสภา ให้ผ่านนิติบัญญัติ ผ่านกฎหมาย ผ่านนโยบาย ให้คนไทยมีชีวิตที่ดี ที่ควรจะมีและดีกว่านี้ได้ ส่วนเรื่องนโยบายที่เราอยากจะชูคือ การเมืองดี ปากท้องดี และมีอนาคต การเมืองดีคือ การทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน, การปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อเอาลูกคืนบ้านเอาหลานคืนมา, รัฐโปร่งใสไร้กลโกง เปิดเผยข้อมูลของรัฐให้ประชาชนเข้าถึงได้ ไม่มีการมุบมิบ การจัดซื้อจัดจ้างต้องรับรู้โดยประชาชนตลอด และการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกระจายอำนาจ และกระจายความเจริญ ไม่ใช่ประเทศกรุงเทพฯ อย่างเดียว เพราะมีหลายจังหวัดต้องการปกครองตนเอง และใช้งบประมาณเพื่อคนในพื้นที่จริงๆ

อย่างไรก็ดี ปากท้องดี คือ การมีรัฐสวัดิการถ้วนหน้าที่ดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ ทั้งเงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท, เบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท, การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 450 บาท ที่ปรับตามเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ และคนทำงานมีสัญญาจ้างที่เป็นธรรม ส่วนมีอนาคต คือการสร้างงานสร้างประเทศ สนับสนุนหวยเอสเอ็มอี และใส่ใจสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและใจ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ พรรค ก.ก.ต้องได้เป็นรัฐบาล เหตุที่ต้องเลือกพรรค ก.ก. หนึ่งคือ เรามีจุดยืนและอุดมการณ์ที่ชัดเจน เราไม่จับมือลุง มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง และสองคือ พรรค ก.ก.มีดีเอ็นเอที่ชัดเจน เป็นดีเอ็นเอคนธรรมดา ที่แค่หวังว่าอยากจะมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และหวังว่าประเทศไทยจะดีกว่านี้ได้

ในส่วนที่ต้องเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก. เป็นนายกฯ เพราะนายพิธามีวิสัยทัศน์ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าได้ผู้ชายคนนี้เป็นนายกฯ ประเทศจะได้ไปยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างทรงพลัง พรรค ก.ก. ไม่ได้ต้องการอะไรมาก เราต้องการให้ชีวิตคนไทยได้ในสิ่งที่ควรจะได้ และควรจะมี ให้คุ้มกับภาษีที่เสียไป

“สุดท้ายดิฉันอยากบอกว่า พวกไอ้ส้มมันเป็นนักสู้ เราจะสู้และจะชนกับต้นตอปัญหา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกส้มจะสู้ ซึ่งไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่ชัยชนะที่ได้มาจะเป็นชัยชนะของประชาธิปไตย และของประชาชนทุกคน ฉะนั้นวันที่ 14 พ.ค.นี้ ให้กาเบอร์ 31 แบบปาร์ตี้ลิสต์ และ ส.ส.เขต ขอให้ไปดูที่หน้าหน่วยเลือกตั้งของท่าน จำเบอร์ให้ดี เพราะเบอร์นี้จะเป็นเบอร์ที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนประเทศและพาประเทศไทยให้ก้าวไปไกลยิ่งกว่าเดิม จึงอยากให้มาร่วมปักธงประชาธิปไตยไปด้วยกันให้ทั่ว กทม. และทั่วประเทศ ประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้ ต้องขอแรง ขอพลังจากทุกคน วันนี้ใครที่เชียร์อยู่ทางบ้าน ขอเปลี่ยนแรงเชียร์แรงใจ เป็นแรงกาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” น.ส.สิริลภัส กล่าว