เรียกได้ว่าช่วงนี้ชาวเชียงรายเผชิญกับอากาศที่เลวร้ายอย่างหนัก เมื่อปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานทั้งของประเทศไทยและขององค์การอนามัยโลกหลายเท่าตัวเลย

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก @นครเมืองเชียงราย ก็ได้ออกมาโพสต์รณรงค์ให้คนเชียงรายสร้างฝน ซึ่งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ร่วมรดต้นไม้และถนนหน้าบ้าน เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยระบุว่า “ชาวเชียงรายร่วมมือร่วมใจ คนเชียงรายสร้างฝน ร่วมกันวันละ 2 เวลา 09.00 น. และ 14.00 น. เอาน้ำรดต้นไม้และถนนหน้าบ้านของท่าน จากการจังหวัด เทศบาล อบจ. อบต. ทุกพื้นที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำมาโดยตลอด ตอนนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนจะร่วมมือร่วมใจกันจะได้ไม่ครับ เรามาช่วยสร้างบรรยากาศให้ชุ่มชื้น ทำให้ฝนตกกันดีกว่าครับ ฝน เกิดจากอนุภาคของไอน้ำขนาดต่างๆ ในก้อนเมฆเมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถลอยตัวอยู่ในก้อนเมฆได้ก็จะตกลงมาเป็นฝน ฝนจะตกลงมายังพื้นดินได้นั้นจะต้องมีเมฆเกิดในท้องฟ้าก่อน เมฆมีอยู่หลายชนิด มีเมฆบาง”

ซึ่งต่อมา “รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวพูดประเด็นนี้ว่า “หลงทางกันใหญ่แล้วครับท่าน การรดน้ำต้นไม้และถนนหน้าบ้าน อาจจะทำให้พื้นที่ดินตรงนั้นชุ่มชื้นขึ้นบ้าง แต่มันก็ไม่ได้จะทำให้เกิดฝนตก และการฉีดน้ำพ่นขึ้นฟ้า ก็ไม่ได้จะช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ลงด้วย เหมือนเอาน้ำขวดไปเทลงคลองแสนแสบ ก็ไม่ได้ทำให้คลองมันสะอาดขึ้น (แถมฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กจิ๋วมาก หยดน้ำมีผลในการจับฝุ่นได้ค่อนข้างน้อย แต่กระแสลมมีผลกระทบมากที่สุดในการพัดพาฝุ่นครับ) ทางออกที่ต้องรีบทำ คือต้องหยุดการเผาไหม้ทุกจุดในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดข้างเคียง ให้ได้ต่างหากครับ ตอนนี้ใครๆ ก็ดูออกว่า ฝุ่นจากควันของการเผาไหม้ มันเต็มเมืองเต็มจังหวัดไปหมดแล้วต่างหาก ป.ล. จู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า ถ้าสมเด็จย่าท่านทรงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ท่านจะทรงรู้สึกเช่นไร ที่อากาศเชียงรายกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @นครเมืองเชียงราย, @Jessada Denduangboripant