เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ทั้งหมดในทุกพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งจากนครบาล ตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรภาค 7 กองปราบปราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช เข้ามารายงานความคืบหน้าของคดี หลังจากปล่อยให้ ตำรวจพื้นที่รับแจ้งความ จนนำไปสู่การจับกุม และรับเป็นคดีแล้วทั้งหมด 14 คดี โดยก่อนเที่ยงวันนี้จะให้คณะทำงานแต่ละชุดนำข้อมูลมารายงานตรงเพื่อรับทราบข้อมูลทั้งหมด ก่อนเริ่มการประชุมในช่วง 13.30 น. ซึ่งจะเป็นการรวมคดีในทุกท้องที่เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและสำนวนมีความแน่นหนา เนื่องจากผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี โดย ผบ.ตร. จะเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง และมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ฝ่ายสืบสวน ผู้รับผิดชอบคดีในภาพรวมเข้าร่วมการประชุมด้วย

ค้นบริษัทตัวแทนขาย “ไซยาไนด์”โยงคดี “แอม” พบขายไปแล้ว30ขวด

ผบ.ตร. กล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้ตนจะมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่โอนสำนวนคดี แอม ไซยาไนด์ เข้ามาให้กองปราบปราม รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากต้องการบูรณาการและยกระดับการทำสำนวนให้เป็นในทิศทางเดียวกัน และมีความแน่นหนารัดกุม เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี ส่วนการออกหมายจับคนใกล้ชิดของ นางสรารัตน์ ที่เป็นตำรวจนั้น ยืนยันว่าจะมีความชัดเจนในการแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าจากการสอบปากคำตำรวจอดีตสามีของผู้ต้องหาสองครั้ง ในการยืนยันว่าเข้าใจผิดคิดว่าลูกในท้องของแอมเป็นลูกที่เกิดจากตน ไม่คิดว่าอดีตภรรยาจะสวมเขาให้ และจากแนวทางการสืบสวนจะพบว่า ทั้งคู่นอนแยกเตียงและหย่ากันแล้วตามนิตินัย แต่คงอยู่บ้านเดียวกันเพื่อดูแลลูกก็ตาม