เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา บริเวณสะพานนริศ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี คาราวานก้าวไกลภาคใต้สายในใต้หล้า นำโดย นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล และ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยมีประชาชนมาร่วมฟังอย่างล้มหลาม โดยหลายคนสวมเสื้อสีส้ม แม้ระหว่างการปราศรัยจะมีฝนตกลงมา แต่ประชาชนจำนวนมากยังปักหลักฟังการปราศรัยต่อไป

นายรังสิมันต์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เคยมีคนบอกว่าการเลือกตั้งในภาคใต้ เป็นไปไม่ได้ที่พี่น้องคนใต้จะเลือกพรรคการเมืองใหม่ แต่การเลือกตั้งปี 62 อดีตพรรคอนาคตใหม่วันนั้น มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เรามีนโยบาย แต่สิ่งที่เราไม่มีคือประสบการณ์และผลงานที่จะบอกประชาชนว่าเราทำได้จริง ถึงอย่างนั้นพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานีก็มอบความไว้วางใจให้เราเกือบ 8 หมื่นคะแนน แม้เราจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มี ส.ส.สุราษฎร์ธานี แต่เราเรียนรู้จากบทเรียนวันนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่เสาไฟฟ้าในสุราษฎร์ธานีไม่ใช่แค่หัก แต่พรรคสีส้มจะเอาลงดินและปักธงก้าวไกล

“เราไม่ต้องการสร้างเสาต้นใหม่ ไม่ได้ต้องการล้มใครแล้วแทนที่คนนั้นเพื่อจะทำแบบเดิม แต่สิ่งที่เราพยายามทำคือทำการเมืองให้ดีกว่า ทำเศรษฐกิจให้ดีกว่า เพื่อไปสู่การเป็นประเทศไทยและสุราษฎร์ธานีที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเกณฑ์ทหาร การปฏิวัติการศึกษา การทำให้เศรษฐกิจปากท้องมีความเท่าเทียม สิ่งที่พวกเราทำสรุปง่ายๆ ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้อำนาจครั้งแรกแล้วจะทำในสิ่งที่พรรคการเมืองต่างๆ ไม่เคยกล้าทำ”

โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่าอะไรที่เราเคยพูดจาหาเสียงกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าทุกจังหวัด การทลายทุนผูกขาดผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าจิตวิญญาณที่ส่งต่อจากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล คือเราพูดคำไหนคำนั้น

“การพูดคำไหนคำนั้น อาจฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่หากเอาพรรคการเมืองต่างๆ ในวันนี้มากางดู พรรคการเมืองที่มีความชัดเจน หาเสียงสัญญากับพี่น้องอย่างไรแล้วทำแบบนั้น นับวันมันแทบไม่มี จนผมสรุปได้เลยว่ามีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่ยังมีความชัดเจน เราพูดเหมือนกันทุกคนว่า ‘มีเราไม่มีลุง’ ยืนยันอย่างนั้น และพรรคก้าวไกลจะไม่มีวันทรยศประชาชนเด็ดขาด”

วันนี้หลายพรรคการเมืองไม่พูดว่าจะจับมือกับใครหรือไม่จับมือกับใคร เพราะถึงเวลาร่วมรัฐบาลจะได้พลิกแพลงกันได้ แต่พรรคก้าวไกลไม่ใช่แบบนั้น เราคิดมาดีแล้วว่าตราบใดที่ยังมีลุงในการเมืองไทย นโยบายที่เราตั้งใจทำ จะไม่มีทางสำเร็จ เราถึงขั้นจะทำเป็น MOU ให้ประชาชนได้ตรวจสอบว่าสุดท้ายแล้วเงื่อนไขอะไรที่ทำให้พรรคก้าวไกลจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น ทุกคนจะได้รู้ว่าประเทศนี้กำลังไปทิศทางไหน นี่คือรัฐโปร่งใสที่พรรคก้าวไกลจะมอบให้พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม วันนี้พรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เจอกับการสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีทุกรูปแบบ เพราะผู้มีอำนาจตระหนักดีว่าถ้าพรรคการเมืองนี้มีอำนาจเมื่อไร พวกปรสิตเหลือบไรที่กัดกินเอาผลประโยชน์ที่เป็นของประชาชนไป จะไม่มีที่ยืน แต่ตนขอยืนยันกับประชาชนเลยว่า ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ตราบใดที่ยังมีพรรคก้าวไกล หรือต่อให้ยุบพรรคก็จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ เราจะไม่ยอมแพ้จนกว่าประเทศนี้จะเปลี่ยนแปลง

“พวกเขาคิดว่ากำลังต่อสู้กับพรรคการเมือง พวกเขาเชื่อจริงๆ ว่าพวกผมล้างสมองประชาชน แต่ในความเป็นจริง พวกเขากำลังต่อสู้กับสิ่งที่เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน มันอยู่ในจิตวิญญาณของพวกเราทุกคน มันคือรุ่งอรุณที่เราหวังจะเห็นในวันพรุ่งนี้ และรุ่งอรุณจะปรากฏให้เห็นทุกครั้ง ในทางตรงกันข้าม พวกเขาไม่รู้ตัวว่าแสงตะวันของพวกเขากำลังจะลาลับ พวกเขาพยายามชะลอให้แสงนี้อยู่กับเขานานที่สุด แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่คนเพียงไม่กี่คน ที่เอาทรัพยากรไว้กับตัวเอง แล้วมาทะเลาะกับประชาชนทั้งประเทศ กรุณานับเท้าประชาชนด้วย”

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า 14 พ.ค.นี้ เป็นวันที่ต้องจารึกว่าพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี จะแห่กันไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเพื่อขีดฆ่าเผด็จการ และส่งนายพิธาเป็นนายกฯ แต่การจะบรรลุเป้าหมายเพื่อให้สุราษฎร์ธานีไม่เหมือนเดิม ลำพังพี่น้องที่ยืนฟังปราศรัยอยู่นี้ ยังไม่เพียงพอ สิ่งที่เราต้องทำคือการบอกต่อคนในครอบครัว บอกต่อเพื่อนฝูงให้เลือกพรรคก้าวไกล 2 ใบ เลือกผู้สมัครพรรคก้าวไกลทุกเขต ให้เขาได้เป็น ส.ส. ที่พิสูจน์ตัวเองว่าทำงานคุ้มค่าภาษีประชาชน ให้เขาได้จารึกว่าเป็น ส.ส. ที่ดีที่สุดของสุราษฎร์ธานี