เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป ซึ่งพบปัญหาหลายอย่างที่ต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าที่ตรงกัน อย่างน้อย 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องปากกาที่ใช้สำหรับลงคะแนน ประชาชนสามารถนำปากกมาเองได้ สีอะไรก็ได้ แต่หากเป็นไปได้อยากให้ใช้สีน้ำเงิน เพราะเป็นสีเดียวกับที่ใช้ในหน่วยเลือกตั้ง 2.เรื่องการถ่ายรูป ซึ่งใครก็สามารถถ่ายรูป ถ่ายคลิปนอกหน่วยได้ แต่อย่าไปรบกวนผู้ลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง รบกวนกรรมการประจำหน่วย (กปน.) หรือซูมคนลงคะแนน 3.ขอความร่วมมือ กปน.ไม่ถ่ายรูปกับคนดัง หรือคนมีชื่อเสียง เพราะถึงแม้กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่อยากขอความร่วมมือไม่ถ่ายรูป เพราะว่าอาจจะถูกมองว่าไม่เป็นกลาง และอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

นายแสวง กล่าวด้วยว่า ภาพรวมการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ว่านับตั้งแต่เปิดหีบบัตรเลือกตั้งพร้อมกัน 94,775 หน่วย ทั่วประเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิคึกคัก สำหรับอุปสรรคนั้นมีบางพื้นที่ฝนตก บางแห่งอากาศร้อนอบอ้าว อย่างไรก็ตาม ตนขอเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันให้มากๆ เพื่อให้การเลือกตั้งมีความชอบธรรมและเป็นที่ยอมรับของทุกคน แต่ขอเน้นย้ำข้อพึงระวังในการออกเสียงลงคะแนนคือ อย่าขนคนไปลงคะแนน ยกเว้นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กกต. ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อเข้าไปในคูหาแล้วอย่าเซลฟี่ หรือถ่ายบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว ห้ามนำบัตรออกนอกคูหา อย่าทำเครื่องหมายอันเป็นที่สังเกตลงในบัตรเลือกตั้ง ห้ามทำลายบัตรเลือกตั้ง อย่าใส่เสื้อที่มีโลโก้พรรค สัญลักษณ์ของผู้สมัคร รวมทั้งห้ามเล่นการพนันเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง

“จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนการทำหน้าที่ของ กปน. อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สังเกตการณ์ ประชาชนที่ไปสังเกตการณ์ หรือผู้แทนผู้สมัครที่ไปสังเกตการณ์ หากพบ กปน.มีความผิดพลาดอะไร สามารถแจ้งกับสำนักงาน หรือ ผอ.เขตรับทราบได้ โดยระบุหน่วยให้ชัดเจน อย่าพูดลอยๆ อย่าพูดว่าบางหน่วยเป็นอย่างนั้น บางหน่วยเป็นอย่างนี้ เพราะไม่เป็นธรรมกับผู้ปฏิบัติงานทั้งประเทศ ขอให้พูดให้ชัดเจนเลยว่าหน่วยไหน” นายแสวง กล่าว และว่าสำหรับหน่วยที่จะรับคะแนนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ค. และบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น ทาง กกต.ได้ประกาศให้ทราบแล้วทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต. สามารถตรวจสอบสถานที่และไปร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนได้  

แต่ข้อมูลที่ผ่านมามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งเข้ามา 163 เรื่อง มากที่สุดคือซื้อสิทธิ ขายเสียง หรือให้ทรัพย์สิน การใส่ร้าย การใส่ร้าย โดย กทม.พบว่ามีการซื้อเสียงมากที่สุด เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่ อย่างไรก็ตาม มีการกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว หรือว่ามีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา สาเหตุที่มีการร้องเรียนน้อยอาจจะเกิดการกดดันป้องกันป้องปรามของสำนักงานส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ กกต.ยังได้ทำความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีการจับกุมได้บางราย ซึ่งต้องดูว่าผลการสืบสวนสอบสวนจะออกมาเป็นอย่างไร เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้เป็นข้อยุติ ส่วนกรณีการซื้อสิทธิ ขายเสียงที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีข้อหลักฐานชัดเจนนั้น เบื้องต้นได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องมาที่กกต.กลาง ทั้งนี้ การสืบสวนสวนจะอยู่ที่พื้นที่  

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องจากวันนี้มีสื่อจำนวนมากมีการรายงานสถานการณ์การเลือกตั้งตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะมีช่องให้ประชาชนสามารแสดงความคิดเห็น หากประชาชนมีการพูดถึงพรรคการเมือง หรือผู้สมัคร หรือสัญลักษณ์ ถือว่าผิดหรือสามารถทำได้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต้องดูการแสดงความคิดเห็นเป็นรายกรณีว่า องค์ประกอบเข้าข่ายเป็นการโฆษณา หาเสียงหรือไม่ เพราะตามหลักวันนี้ (14 พ.ค.) นั้นห้ามหาเสียง อะไรก็ตามที่มีการหาเสียงก็ถือว่าผิดทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีอาจจะปิดไม่ให้มีการแสดงความเห็นไปก่อน ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ก็น่าจะดี.