นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยแผนบริหารจัดการหนี้เงินกู้โควิดจำนวน 1.5 ล้านล้านบาท ว่า การกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินโควิด-19 ทั้ง 2 ฉบับ วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท มีการกู้จริงประมาณ 1.46 ล้านล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 เม.ย. 66 มีการชำระคืนแล้วประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท คงเหลือหนี้คงค้าง 1.35 ล้านล้านบาท โดยการชำระหนี้ที่คืนไปแล้วแบ่งเป็น ในปีงบประมาณ 63  ประมาณ 3,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 64 ชำระหนี้ 1,400 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 65 ชำระหนี้ 38,000 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 66 ชำระหนี้ 51,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ สบน. ยังได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจำนวน 18 ครั้ง รวมวงเงินประมาณ 3.59 แสนล้านบาท โดยการปรับส่วนใหญ่เป็นการแปลงจากเงินกู้ และตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นหนี้ระยะยาว แบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ ด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาล 5.45 หมื่นล้านบาท พันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน 2.57 แสนล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ระยะสั้น 4.78 หมื่นล้านบาท

สำหรับต้นทุนในการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นไปตามสภาวะตลาด โดยอัตราผลตอบแทนจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน อายุ 14.2 ปี ครั้งล่าสุดอยู่ที่ 2.6352% ต่อปี ในปีงบประมาณ 66 คงเหลือวงเงินที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกจำนวน 5,000 ล้านบาท