เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยในฐานะผู้จัดการตั้งรัฐบาล ว่าขณะนี้พรรครวบรวมเสียงได้ 313 เสียง ถือว่ามีเพียงพอและมั่นคงแล้วตามหลักการประชาธิปไตยสากลทั่วไป ดังนั้น หลังจากนี้ จะเดินหน้าคุยกับ ส.ว. ต่อ เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แล้วพาบ้านเมืองไปต่อตามครรลองประชาธิปไตย ไม่ไปสู่ทางตัน โดยจากที่ตนได้พูดคุยกับ ส.ว. จำนวนหนึ่ง หลายท่านมีความกังวลเรื่องทิศทางนโยบายต่างประเทศ การรักษาสมดุลของไทยในเวทีการเมืองโลก และ ส.ว. ไม่ต้องการเห็นรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มขึ้น เมื่อได้พบกันและอธิบายจุดยืนและแนวทางของพรรคก้าวไกล ทาง ส.ว. ก็เข้าใจมากขึ้น

“โดยวันที่ 23 พ.ค. จะมีประชุมวิสามัญวุฒิสภา และทราบมาว่าหลังการประชุมวุฒิสภา น่าจะมีการประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการของ ส.ว. เรื่องแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่าเมื่อ ส.ว. ได้เห็นข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 22 พ.ค. แล้ว จะมีความเข้าใจต่อพวกเราดีขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจในเชิงบวก เพื่อผลักดันประเทศไปข้างหน้า” นายชัยธวัช กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระบวนการเจรจาร่าง MOU เดินหน้าไปได้ด้วยดี ตอนนี้ทุกพรรคกำลังพิจารณาและนำเสนอวาระสำคัญของแต่ละพรรค เพื่อมารวมกันเป็นข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันที่ 21 พ.ค. จะมีการพูดคุยกับแต่ละพรรคอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันในวันที่ 22 พ.ค. นี้

นายชัยธวัช กล่าวยืนยันว่า วาระสำคัญใน MOU จะตอบสนองต่อเสียงประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ทั้งในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเป็นธรรม และปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย มีนิติรัฐ โปร่งใส ปราศจากการทุจริต และแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปสู่อนาคตได้.