จากกรณีชายชุดดำบุกยึดวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร และบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ คนงานของวัด และไวยาวัจกรที่อยู่ในกุฏิเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา ตำรวจ สภ.โพทะเล ได้ขออนุมัติศาลพิจิตร เพื่อออกหมายจับ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ในข้อหา ร่วมกันบุกรุกวัด ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ตร.ออกหมายเรียก ‘ส.ว.กิตติศักดิ์’ ปมเอี่ยวเหตุชุลมุนบุกรุกวัดบางคลาน

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว 21 ราย ซึ่งติดตามจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว และจากการซักถามผู้ต้องหายอมรับว่ามีผู้ใช้ให้เข้าไปก่อเหตุ ซึ่งทางตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจและไปขอศาลจังหวัดพิจิตรออกหมายจับผู้ใช้ หรือผู้สั่งการ ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ที่ถูกขอออกหมายจับมีหลักฐานที่พักเป็นหลักแหล่งชัดเจน จึงเปลี่ยนให้ออกหมายเรียกแทน ซึ่งจะให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ส่วนกรณีของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รายดังกล่าว เจ้าตัวยังไม่ได้ขอมามอบตัวตามหมายเรียกแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า มีหลักฐานอะไรบ้างที่ทำให้ตำรวจมั่นใจไปขอศาลออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน ซึ่งหากหมายเรียกในครั้งแรกไม่มาก็จะดำเนินการตามขั้นตอน โดยการขอออกหมายจับต่อไป และเมื่อถามว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น เพราะก่อนหน้านี้ผู้ถูกออกหมายเรียกมีประเด็นในเรื่องการโหวตไม่โหวตนายกรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะคดีดังกล่าว ตนเองได้รับมอบหมายให้ดำเนินการมาตั้งนานแล้วหลายปีก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ จะต้องไปตั้งคณะกรรมการกลางร่วมกับหลายหน่วยงาน ในการร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งหากพบว่าทรัพย์สินหายก็จะไปดำเนินคดีต่อและสืบต่อว่าทรัพย์สินหายไปไหน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ถือว่ามีความก้าวหน้าไปเยอะมากแล้ว ทุกอย่างต้องจบด้วยการเจรจา ไม่ใช่กฎหมู่หรือการทำร้ายร่างกาย เพราะตำรวจดูตามพยานหลักฐาน เมื่อศาลบอกว่าพยานหลักฐานเพียงพอก็แปลว่าถูกทาง.