เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่แยกอโศก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) พร้อมด้วย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พร้อมสมาชิกร่วมจัดกิจกรรมชุมนุม ม็อบ 5 กันยา ขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเป็นการจัดกิจกรรมควบคู่ไปกับทางกลุ่มทะลุฟ้า ที่มีการนัดหมายจัดกิจกรรมเขียนป้ายผ้า “เขียนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ล้วงคองูเห่า เอาให้อ้วกเป็นกล้วย” ที่บริเวณดังกล่าวในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 15.30 น. เป็นต้นมา เริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งที่ผ่านมาทำให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในของรัฐบาลจนเกิดกระแสข่าวใช้วิธีสกปรกใต้สภาเพื่อความตัวรอด แม้จะไม่พบหลักฐานแต่เชื่อว่าประชาชนที่ติดตามข่าวสามารถรับรู้ได้ ดังนั้นแม้พลเอกประยุทธ์ จะยังสามารถทำหน้าที่ต่อได้ แต่สำหรับประชาชนพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป โดยหลังจากนี้จะมีการชุมนุมเพื่อขับไล่พลเอกประยุทธ์ต่อเนื่อง ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จะมีการปรับรูปแบบการเคลื่อนไหวให้เหมาะสม โดยให้นายสมบัติปักหลักรับมวลชนอยู่แยกอโศก ส่วนตนเองจะไปนำมวลชนจากเส้นทางต่างๆ เคลื่อนขบวนคาร์ม็อบมาสมทบ โดยหลังจากนี้จะมีการนัดหมายใหญ่อีกครั้ง รอการประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นอุปสรรคต่อการพักค้างคืน ไม่สามารถทำให้มวลชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ยาวได้

ด้านนายสมบัติ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นผลมาจากการลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีแสดงให้เห็นว่าไม่มีศักยภาพในการบริหารประเทศ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประเทศตกต่ำ ที่น่าแปลกใจคือพรรคร่วมรัฐบาลสนใจแต่จะกินกล้วยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ผลการลงมติไว้วางใจในครั้งนี้ขัดความเป็นจริงของสถานการณ์ประเทศ การโหวตในครั้งนี้เป็นการตบหน้าประชาชน การชุมนุมในวันนี้จึงเป็นการแสดงปฏิกิริยาไม่ยอมรับการผลการลงมติในครั้งนี้ และจะออกมาชุมนุมทุกวันโดยใช้แยกอโศกเป็นป้อมค่ายในการทำกิจกรรม ในลักษณะมาเช้าเย็นกลับ ไม่ค้างคืน รวมถึงจากนี้จะเชิญชวนให้คนมาร่วมคาร์ม็อบจากนอก กทม.มาร่วมแสดงเชิญสัญลักษณ์บีบแตรไล่รัฐบาล เชื่อว่าหากประชาชนยังไม่ยอมแพ้สุดท้ายจะมีพลังมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาลได้