เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาตำรวจสอบสวนกลาง นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ ตัวแทนสภาองค์กรผู้บริโภค พานายเดวิด เอ็ดเวิร์ด แชพเพิล อายุ 70 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.ท.สุชาติ อิ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.5 บก.ป. เพื่อขอให้สอบสวนดำนินคดีกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากตกลงซื้อห้องพักในคอนโดมิเนียมแล้วโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้

นายภัทรกร เปิดเผยว่า นายเดวิด ผู้เสียหายได้มาร้องเรียนสภาองค์กรผู้บริโภค ว่า ตั้งแต่ปี 2559 ได้ตกลงซื้อคอนโดฯ หรูแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย จากบริษัทดังกล่าว ราคากว่า 15 ล้านบาท โดยแต่ละปีผู้เสียหายจะบินกลับมาพักผ่อนแค่ 3 ครั้ง ระหว่างนี้ก็พยายามจะขอเอกสารสิทธิเพื่อโอนชื่อผู้ครอบครองให้เรียบร้อย แต่ก็ทำไม่ได้เสียที จนมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา จึงทราบว่า ทางโครงการนั้นไม่ได้ยื่นขออนุญาตแต่อย่างใด รวมทั้งยังพบข้อพิรุธหลายอย่าง เช่น แจ้งข้อความเท็จ, หลอกลวงลูกค้าไม่จดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์, ไม่ส่งมอบเอกสารสิทธิสำนักงานที่ดินแก่ลูกค้า รวมทั้งยังนำที่ดินภายในโครงการไปขายหรือจำนองโดยที่ลูกค้าไม่ได้รู้เห็น หรือยินยอม

นายภัทรกร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบแล้ว ยังพบว่ามีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อถูกบริษัทดังกล่าวหลอกลวงอีกหลายราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณกว่า 100 ล้านบาท นายเดวิดจึงเข้ามาร้องเรียนผ่านสภาองค์กรผู้บริโภค เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือพาเข้ามาแจ้งความดังกล่าว

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องพร้อมสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า บริษัทแห่งนี้มักหลอกลวงเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติที่ไม่รู้กฎหมายไทย และระเบียบราชการของไทย เช่นเวลาลูกค้ามาแวะเยี่ยมชมโครงการ ก็จะอ้างว่า หากตกลงซื้อกับโครงการก็จะมีข้อดี คือไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม หรือภาษีที่ดิน เหมือนกับโครงการอื่นๆ โดยมีการนำโฉนดห้องชุด หรือโฉนดที่ดิน ซึ่งทำปลอมขึ้นมาเอง มาแสดงให้ลูกค้าต่างชาติหลงเชื่อ กระทั่งยินยอมโอนเงินมาเพื่อซื้อห้องพัก หลังจากนั้นก็ไม่ยอมโอนสิทธิการครอบครองให้ลูกค้าดังกล่าว