เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดโปงขบวนการเรียกรับเงินโดยมิชอบจากผู้ประกอบการรถบรรทุก หรือการเก็บส่วยตามที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้นั้น ล่าสุดได้ลุกลามไปยังวงการอื่นๆ รวมทั้งส่วยลอตเตอรี่ โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย หรือคนเดินเร่ขาย หากมีสติกเกอร์ ก็สามารถขายเกินราคาที่กฎหมายกำหนด ไม่ต่างกับสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก

นายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย จ.เลย ให้ความเห็นว่า การเก็บส่วยลอตเตอรี่มีมานานแล้ว เป็นหนึ่งในปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกชมรมฯ เพราะต้องเพิ่มภาระต้นทุนมากขึ้น การเก็บส่วยส่วนใหญ่กระทำต่อผู้ค้ารายย่อย หรือคนเดินเร่ขาย ส่วนเจ้าของแผง ทั้งที่ตลาดวังสะพุง หรือสนามบินน้ำ กลับไม่ถูกจับหรือเรียกรับส่วยรายเดือน ทั้งๆ ที่ขายเกินราคาเช่นกัน สำหรับในพื้นที่จังหวัดเลย ไม่พบว่ามีการเก็บส่วยรายเดือนกับผู้ค้ารายย่อย ที่พบมากจะอยู่ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะแถบปริมณฑลรอบๆ กรุงเทพฯ รายละ 100-500 บาทต่อเดือน

นายจีระศักดิ์ เผยอีกว่า การเก็บส่วยมีหลายรูปแบบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เรียกเก็บเงิน ก็พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย บางพื้นที่ก็ไม่มีสติกเกอร์ บางพื้นที่ก็ยังใช้แบบเดิมอยู่ ที่พบส่วนใหญ่ก็คือการออกมาจับผู้ค้ารายย่อยให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพัก เขียนใบเสร็จค่าปรับ 2,000 บาท แต่เก็บเงินจริง 500 บาท แล้วผู้ค้ารายนั้น ต้องมาจ่ายให้เจ้าหน้าที่ทุกเดือน เดือนละ 500 บาท ทางชมรมได้เคยต่อสู้ ชุมนุมเรียกร้องให้แก้กฎหมาย เกี่ยวกับการจับกุมผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่ขายเกินราคา เพราะทุกคนรับซื้อจากยี่ปั๊วมาเกินราคาอยู่แล้ว ยังต้องมาถูกจับ และเสียส่วยรายเดือนอีก แต่ยังไม่มีใครพิจารณาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง