เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีบุคลากรทางการแพทย์ลาออกจำนวนมาก ว่าขอให้ฟังการแถลงของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายบริหาร ที่จะมีการเสนอรายละเอียดและข้อมูลภาพรวมและเหตุการณ์ที่ประชาชนสนใจ

เมื่อถามถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายที่ไม่รับแพทย์จบใหม่และบุคลากรเพิ่ม นพ.โอกาส กล่าวย้อนถามว่า นโยบายที่จะไม่รับแพทย์นั้นมีด้วยหรือ มีแต่อยากจะรับมากๆ อยากรับเพิ่ม แต่คนที่จะอนุมัติให้รับเพิ่มคือสำนักงานข้าราชการพลเรือน และรัฐบาล ต้องยอมรับว่าความต้องการรับบริการของประชาชนมีสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่พยายามจะยกระดับทำงาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องบุคลากร ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่อนุมัติบุคลากรการหลังโควิด 45,000 อัตรา ทำให้ความกดดันเรื่องของบุคลากรลดลงแต่ยังไม่หมด เนื่องจากความต้องการรับบริการของประชาชนมีมาก นอกจากนั้นมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ที่ได้รับจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่เหมาจ่ายรายหัว ซึ่งเราหวังว่าจะได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น ให้เท่ากับที่ต้องบริการประชาชน

เมื่อถามว่าเรื่องงบประมาณ เป็นปัญหาหลักที่ทำให้บุคลากร ลาออกหรือไม่ ปลัด สธ. กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง มีทั้งเรื่องบุคลากร และหากสังเกตทุกอย่างอยู่นอกการควบคุมของกระทรวง สธ. และเราใช้ทรัพยากรทั้งคนและเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด มาบริการประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อไม่ให้เดือดร้อน

“ต้องขอบคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทุกคน ที่เสียสละ ทุ่มเท ทำงานให้ประเทศ และกระทรวง เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างดีที่สุด เราจะดูแลจัดการเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพ ได้กำชับเรื่องสวัสดิการและภาระงานไม่ให้เกินไป ที่ดูจากตัวเลขภาระงานค่อยๆ ลดลง และดีขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าหมดไป ส่วนที่มีบางจุดที่เป็นปัญหา ก็ค่อยๆ แก้เป็นจุดๆ ไป และในสังคมปัจจุบัน ประชาชนที่อยู่ในชนบทตอนนี้มาอยู่ในเมืองเยอะกว่า ทำให้ภาระงานในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป มีมากกว่าโรงพยาบาลอำเภอ โดยกระทรวงพยายามปรับเปลี่ยนตรงนี้ เพื่อให้เกิดความสมดุล โดยยึดถือนโยบายว่า จังหวัดหนึ่งให้เป็นโรงพยาบาลเดียวกัน ก็จะอยู่โรงพยาบาลไหน สามารถเคลื่อนย้ายบุคลากรกันได้ ให้เกิดภาระงานของที่ใดหนักเกินไป

เมื่อถามว่าจะทำให้เกิดการสมองไหลในวงการแพทย์หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เราต้องใช้มาตรการหลายส่วน และการที่บุคลากรจะอยู่ได้ หนึ่งคือเรื่องค่าตอบแทนที่ต้องเปรียบเทียบกับภาคเอกชนที่เป็นการดึงดูดใจ และเรื่องสวัสดิการที่กระทรวงเพิ่มค่าตอบแทนและโอทีเพิ่มเข้าไป ดูแลเรื่องบ้านพักกำชับให้สร้างบ้านพักสำหรับหมอพยาบาลให้เพียงพอ และความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งตอนนี้ แพทย์ได้ซี 9 ทุกคน ส่วนพยาบาลราชการและได้รับราชการ พยายามที่จะให้ซี 8 ซี 9 ทุกคน ถ้าทำได้โดยต้องดูระเบียบของ ก.พ. เรื่องของภาระงานยอมรับว่าเป็นเรื่องที่แก้ยาก เนื่องจากความต้องการของประชาชนมีเยอะ แต่ถ้ามีบุคลากรและงบประมาณเพิ่มขึ้น ก็จะจัดการได้ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแก้เบื้องต้นที่บุคลากรลาออกได้อย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ภาพรวมของบุคลากรที่รับเหมาต่อปีประมาณ 2,000 คน ที่ลาจะออกส่วนหนึ่งคือแพทย์เพิ่มพูนทักษะ เมื่อจบการศึกษาแล้ว บางคนอยากไปศึกษาต่อ สามารถเกิดได้เป็นปกติปีละประมาณ 10% และที่กลับเข้ามาใหม่ในระบบตัวเลขถือว่าเป็นบวก ดังนั้นจำนวนบุคลากรที่ขาดแคลนยังมีอยู่ แต่ไม่ถึงกับกดดันมากนัก และอาจมีบางจุดที่เป็นปัญหาเหมือนโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปกำลังจะมีการปรับเปลี่ยนระบบไม่ให้ภาระงานเยอะจนเกินไป

เมื่อถามย้ำว่าอีก สาเหตุคือบุคลากรไม่ได้รับการบรรจุหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เราบรรจุเกือบทุกคนที่อยากอยู่กับเรา แต่บางครั้งแพทย์ที่ไม่ได้ใช้ทุน อยู่ในมหา’ลัยเอกชน หรือแพทย์ที่จบจากต่างประเทศ ที่ไม่มีสัญญาใช้ทุน แต่ถ้าต้องการอยู่กับเรา ก็จะหาตำแหน่งทางราชการให้