เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ใจให้เหล่าศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ของธรรมยุตินิกาย หรือ สายกรรมฐานพระป่า หลังจากเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) พื้นที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด แต่ที่เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นบริเวณกุฏิ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่ถูกต้นไม้โค่นล้มใส่กุฏิ แต่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนต้นไม้ใหญ่ที่ล้มใส่กลับหักเป็น 2 ท่อน เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก “วัดป่าภูผาสูง” โดยระบุข้อความว่า “น่าอัศจรรย์มากครับ ฝนตกต้นไม้ล้มทับกุฏิหลวงปู่มั่นแต่กุฏิไม่เป็นอะไร ต้นไม้หัก 2 ท่อนครับ วัดป่าบ้านหนองผือ สกลนคร” ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ

จากการสำรวจบริเวณโดยรอบกุฏิหลวงปู่มั่น พบไม้เบญจพรรณร่มรื่นเงียบสงบ มีป้ายหลักธรรมคำสอนหลักธรรมติดไว้ให้อ่าน ส่วนกุฏิเป็นไม้ชั้นเดียวยกสูง ด้านในมีรูปหล่อเหมือนหลวงปู่มั่นไว้ให้ศิษยานุศิษย์ได้สักการะกราบไหว้ ขณะที่บนหลังคาไม้ มีผ้ายางสีแดงคลุมไว้เพื่อป้องกันลมฝน ใกล้กันพบต้นไม้ที่หักโค่น ปัจจุบันถูกตัดแบ่งเป็นหลายท่อน ส่วนตัวกุฏิที่มีสภาพเก่าแก่ ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แค่ส่วนหลังคาไม้ ทางวัดกำลังดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม ส่วนต้นไม้ดังกล่าว มีความสูงประมาณ 20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 44 เซนติเมตร คาดว่ารากเน่า ประกอบกับเจอลมพายุฝนพัดแรงจึงทำให้โค่นล้มลงมา

วัดป่าภูริทัตตถิราวาส ถือเป็นวัดที่สำคัญหนึ่งในวัดป่ากัมมัฏฐาน เดิมที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าดงพงดิบ ต่อมามีชาวบ้านแผ้วถางทำการเกษตร พร้อมทั้งขณะนั้นพระอาจาร์ยหลุย จนฺทสาโร ธุดงค์ปลีกวิเวกทำที่พักสงฆ์ชั่วคราว ทำให้มีพระภิกษุสามเณรเดินธุดงค์สัญจรเข้าพักพิงอยู่ไม่ขาดสาย สถานที่แห่งนี้จึงพัฒนาเป็นวัดในเวลาต่อมา โดยพระครูวินัยมั่น ภูริทตฺโต หรือหลวงปู่มั่น เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เคยพำนักจำพรรษาอยู่ที่แห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าภูริทัตตถิราวาส ตั้งแต่ พ.ศ. 2488-2492

โดยหลวงปู่มั่นได้ปฏิบัติตนตามแนวทางคำสอนพระศาสดาอย่างเคร่งครัด และยึดถือธุดงควัตรด้วยจริยวัตรปฏิปทางดงามจนได้รับการยกย่องจากผู้ศรัทธาทั้งหลายว่าเป็นพระผู้เลิศทางธุดงควัตร ท่านวางแนวทางในการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนาตามหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาพุทธเจ้าให้แก่สมณะประชาชนอย่างกว้างขวาง จนมีพระสงฆ์และฆราวาสเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก แนวคำสอนของท่านเป็นที่รู้จักกันดีในนามว่า คำสอนพระป่า หลังจากท่านมรณภาพลง ในปี พ.ศ. 2492 ยังคงมีพระสงฆ์ที่เป็นลูกศิษย์ของท่านสืบต่อแนวปฏิปทาธรรมปฏิบัติของท่านสืบมา

โดยลูกศิษย์เรียกว่า พระกรรมฐานสายวัดป่า หรือ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้รับยกย่องจากผู้ศรัทธาให้เป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่า หรือพระอาจารย์ใหญ่แห่งวงศ์พระกรรมฐานวัดป่า สืบมาจนปัจจุบัน