“ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน” เป็นขบวนการที่เรียกว่าพวกเชื้อชั่วไม่เคยตาย เป็นเพราะ “เจ้าหน้าที่แกะดำ” ขององค์กรตั้งแต่ที่อยู่ในพื้นที่จนถึงส่วนกลาง เป็นผู้ที่มีส่วนในการเรียกรับประโยชน์ จากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ทั้งหมด?!? แต่ได้รับการ “ปฏิเสธ???” จากหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น “ตำรวจ, ศุลกากร, สรรพสามิต” มาโดยตลอดว่า “ไม่มี?” และ “ไม่จริง?” … คือข้อมูลที่ทีมข่าว “เดลินิวส์” นำเสนอมาทุกครั้ง แต่ก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่งลงไปในก้นเหวลึก ไม่มีเสียงสะท้อนหรือผลตอบกลับมาแต่อย่างใด?

แต่เชื่อเถอะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เพราะการจับกุมน้ำมันเถื่อน ตำรวจทางหลวง ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา บ่งบอกได้ดีเมื่อมีบุคคล อ้างชื่อว่าเป็น ผู้บริหารระดับบิ๊กคนหนึ่ง จากกรมสรรพสามิต โทรศัพท์เข้ามาขอเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม?!? … นี่น่าจะเป็นหลักฐานอ้างอิงหรือโยงใยกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนได้

ข้อเท็จจริง เรื่องน้ำมันเถื่อน ณ วันนี้ ไม่ได้มีการขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนอยู่ในภาคใต้อย่างที่เข้าใจกัน เพราะขบวนการน้ำมันเถื่อน มีการทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเป็นขบวนการ ที่มีเงินหมุนวันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านในแต่ละเดือน ตั้งแต่ ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง มายัง สมุทรปราการ ลัดเลาะ ชายฝั่ง “อ่าวไทย” เพชรบุรี, ประจวบฯ, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, สงขลา, ปัตตานี และนราธิวาส ล้วนแต่เป็นพื้นที่การค้าน้ำมันเถื่อนของประเทศไทย ที่ยิ่งปราบยิ่งโต และมีเม็ดเงินในการจ่ายส่วยอย่างมหาศาล

ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน แบ่งออกมาเป็น 4 กลุ่มใหญ่ 1.กลุ่มของภาคตะวันออก 2.กลุ่มของภาคกลาง 3.กลุ่มของภาคใต้ (อ่าวไทย) 4.กลุ่มของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังสามารถ “แยกย่อย” เป็น 3 กลุ่มใหญ่ 1.กลุ่มผู้ค้าน้ำมันทางทะเล 2.กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเขียว (ประมง) และ 3.กลุ่มผู้ค้าน้ำมันทางบก นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย เส้นทางชายแดน จ.สงขลา จ.สตูล และ จ.นราธิวาส และในเส้นทางบก ยัง “แยกย่อย” เป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ใช้รถบรรทุก (หัวลาก) ที่วิ่งบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ 2.กลุ่มรถยนต์ รถกระบะดัดแปลง รถเก๋งดัดแปลง และ 3.กลุ่มที่นำเข้าโดยถูกต้อง เพื่อขอ “ผ่านทาง” ของประเทศไทย เพื่อไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว, กัมพูชา และเมียนมา แต่นำน้ำมันมาขายในประเทศไทย ฟันกำไรส่วนต่าง โดยไม่ได้มีการส่งออกจริง

กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทางทะเล ตั้งแต่ “ปากน้ำประแสร์” จ.ระยอง จนถึง จ.สงขลา มีรายชื่อที่เป็น “รายใหญ่ๆ” ที่ “ตำรวจ, ศุลกากร และสรรพสามิต” ต่างมีบัญชีอยู่ในมือ??? โดยมีชื่อของ “เสี่ย 14 คน” , “1 กำนัน” , “2 โก” และ “1 นายหัว” เข้าไปพัวพัน นอกจากนี้ยังมีบรรดาสารพัด “เจ๊” อีกเพียบที่เป็นเถ้าแก่เนี้ยในวงการค้าน้ำมันเถื่อนทางบก ในการ “จัดหาน้ำมัน” ให้กับ “3 เสี่ย” ในพื้นที่ จ.ราชบุรี และสระบุรี ที่เป็นผู้ค้าน้ำมันทางบกรายใหญ่ ที่มี “คอกน้ำมัน” ใน จ.สงขลา

และเมื่อมีผู้ค้าแล้ว ก็ต้องมีผู้ดูแลในคราบของเจ้าหน้าที่รัฐ??? … บอกไว้ก่อนอย่าตกใจกับตัวเลขที่จะได้อ่านหลังจากนี้ มีหน่วยงานของรัฐ เข้าไป “รับส่วย” ถึง 35 หน่วยด้วยกัน โดยเฉพาะจาก 3 หน่วยงานหลักคือ “ตำรวจ, สรรพสามิต, ศุลกากร” ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงกับการปราบปราม จับกุม ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน หากนับนิ้วตามรายชื่อในบัญชีจ่าย “ส่วย” ได้แล้วก็ไม่ต่ำกว่า 35 หน่วยที่เกี่ยว???

ยืนยันทุกรายชื่อที่ปรากฏคัดมาจากบัญชีของการจ่าย “ส่วย” ที่มีตัวเลขกำกับด้วย แต่ละหน่วยเท่าไหร่?!? มีตั้งแต่ 4,000-100,000 บาทต่อเดือน และจ่ายให้กับใครไปบ้าง??? …ฟังแค่ชื่อคนทำธุรกิจน้ำมันเถื่อนกับผู้รับส่วยน้ำมันแล้ว ก็ได้แค่อึ้ง!!! …อ้าปากค้าง มันเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ?!?

ใช่!!! …เยอะมาก และในครั้งหน้าจะมาชำแหละแต่ละขบวนการในการนำเข้าขนส่ง และทำเงินดำเถื่อนกันอย่างไร?