ที่ รร.เอสซี ปาร์ค เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของการสัมมนา พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้แบ่งกลุ่มส.ส. พูดคุยใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย หัวข้อความหวัง ความฝันในการเป็น ส.ส. หัวข้อบทในสภาของส.ส.ที่พึงมี และหัวข้อกฎระเบียบกติกามารยาท เพื่อเตรียมความพร้อมให้ ส.ส. ในการทำหน้าที่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เข้าไปพูดคุยกับทั้ง 3 กลุ่มก่อนที่จะบรรยายพิเศษให้กับส.ส.ทั้ง 141 คนรับฟัง

นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นนิมิตรหมายอันดีที่ได้มาอยู่รวมกัน ช่วงเช้าได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ได้พูดความในใจกันเชื่อว่าพรรค พท. ยึดโยงประชาชน มีหัวใจที่ต้องการดูแลประชาชน การแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องดี ผู้ใหญ่ในพรรคจะนำความเห็นไปพูดคุยกัน วันนี้ฝ่าย ประชาธิปไตย คือพรรค พท. และก้าวไกล ต้องร่วมมือตั้งรัฐบาลให้ได้ ยอมไม่ได้ที่จะให้ขั้วเก่าตั้งรัฐบาล ประชาชนเลือกเรามาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งครั้งนี้เรามาที่ 2 เราแพ้ไม่มาก หลายคนไม่สบายใจ ทุกคนในที่นี้มีส่วนทำให้เราได้คะแนน 141 และอีกส่วนทำให้เราไม่ได้เยอะกว่านี้ ข้อดีของพรรคพท. คือเรายึดโยงประชาชนตลอด ไม่มีใครกล่าวหาเราได้ว่าเราไม่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะชื่อพรรคอะไรก็ตาม และไม่ว่าพรรคไหนก็ตามที่พยายามจะเอาชนะเรา ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยี ถ้าเราไม่ยึดโยงประชาชน ไม่ลงพื้นที่ เราก็ไม่ชนะ แต่เราเรียนรู้จากเรื่องที่ผิดพลาดได้

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นปรากฎการณ์ครั้งพิเศษที่ประชาชนอยู่ในความลำบากมานาน ถ้ามีพรรคการเมืองใดสัญญาว่าจะให้เยอะมากๆ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอาจโน้มน้าวใจได้มากกว่าการลงพื้นที่ และอาจเป็นเหตุผลให้เขาไม่เลือกเรา ในฐานะมาปรับเปลี่ยนพรรค ยืนยันว่าการลงพื้นที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และการไปลงพื้นที่ของตนไม่ได้มีจุดประสงค์ ทาบรัศมีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล แต่ไปแสดงเจตจำนงว่าเราเริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ 3 เดือนก่อนเลือกตั้งค่อยทำงาน เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลง คือเวลาที่เราแพ้ เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันจะกลับมาใหม่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป มั่นใจถ้าเราร่วมแรงร่วมใจกันเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะกลับมาเป็นที่ 1 แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายเศรษฐา ได้เดินทางมาถึงรร.เอสซี ปาร์ค เวลา 14.00 น. และได้ร่วมพูดคุยกับนายพานทองแท้ ชินวัตร และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรของนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อพูดคุยกันถึงทิศทางการปรับเปลี่ยนพรรคพท.หลังจากนี้ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปพูดคุยกับส.ส.ของพรรค พท.

ภายหลังการสัมมนาพรรค พท. เสร็จสิ้น ได้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างแกนนำพรรค และ ส.ส. โอกาสนี้ได้มีการจัดเลี้ยงวันเกิดให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคราวเดียวกันด้วย ซึ่งมีการแจกเสื้อยืดสีขาวสกรีนรูปปูสีสายรุ้ง ให้กับบรรดาผู้มาร่วมการสัมมนาพรรค เพื่อใส่ร่วมงานเลี้ยงวันเกิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีดีโอคอลมาพูดคุยกับผู้ร่วมงาน และแสดงความยินดีกับส.ส.ของพรรค พท. ทั้ง 141 คน ซึ่งภายในงานได้มีการเป่าเค้กวันเกิดให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ก่อนถึงคิวนายเศรษฐานั้น ในการสัมมนาที่ให้ ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็น โดยมีส.ส. ลุกขึ้นแสดงความเห็นกว่า 10 ราย โดยมีเนื้อหาอภิปรายในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เสียงส่วนใหญ่กว่า 90% ของ ส.ส. 141 คน ต่างมีความเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวควรอยู่ที่พรรค พท. และไม่ควรยกให้พรรคก้าวไกล เนื่องจากเราได้ ส.ส. น้อยกว่าพรรคก้าวไกลเพียง 10 เสียง ฉะนั้นควรแบ่งตำแหน่งประมุขให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อการถ่วงดุลในการทำงาน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกล่าวอ้างกระแสสังคม โดยเฉพาะแฟนคลับพรรคก้าวไกล แต่ต้องไม่ลืมความรู้สึกของแฟนคลับพรรค พท. ซึ่งมีกว่า 10 ล้านเสียงเช่นกัน เมื่อเขาเลือกเรามา ก็หวังให้เราได้ทำงาน และมองว่าการที่ไปเจรจาอะไรมา ก่อนจะให้ข่าวก็ควรมาแจ้ง ส.ส. รับทราบก่อน

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความคิดเห็นถึงการเลือกตั้งที่ได้มาเพียง 141 เสียง มองว่าการจัดรณรงค์หาเสียงค่อนข้างมีข้อผิดพลาด มีการแบ่งทีมปราศรัยน้อยเกินไป ไม่มีทีมปราศรัยไปช่วยอดีตผู้สมัคร ส.ส. มากเท่าที่ควร บางพื้นที่ความนิยมค่อนข้างดี ก็ส่งทีมปราศรัยไปย้ำความนิยม แต่สำหรับพื้นที่ที่ความนิยมตามหลังคู่แข่ง กลับไม่มีการส่งทีมปราศรัยไปช่วย อีกทั้งมองว่าผลสำรวจความนิยมก่อนลงคะแนนเสียงของพรรคไม่มีความแม่นยำ ทำให้การประเมินสถานการณ์ในการเลือกตั้งผิดพลาด

ทั้งนี้ การเปิดเวทีให้ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็นในวันนี้ ไม่มีข้อสรุปออกมา โดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ เพียงแค่เปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น และเป็นที่น่าสังเกตว่านายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้มาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ ทั้งที่มีรายชื่อเป็นผู้บรรยายกิจกรรมในช่วงบ่าย ที่แบ่งส.ส.กันไปสัมมนาเป็นรายกลุ่ม ท่ามกลางกระแสข่าวที่จะได้รับการผลักดันจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ โดยคนใกล้ชิดให้เหตุผลว่าวนายสุชาติเพิ่งไปผ่าฟันคุด.