เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษก กองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเพจ CSI LA กล่าวอ้างว่า กองทัพเรือ เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนในการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ด้วยการแก้เอกสารสัญญาสั่งซื้อระบบเป้าบิน Phoenix ราคา 49.8 ล้านบาท ว่า จากข้อกล่าวหาว่า กองทัพเรือ ไม่ซื้อรางปล่อยเนื่องจากต้องการซื้อผ่านตัวแทนช่วง(ซาปั๊ว) ขอชี้แจงว่า เริ่มแรกของโครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ จำนวน 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ได้จัดหารางปล่อยในทีโออาร์ตั้งแต่แรก เนื่องจากได้มีการสำรวจจากบริษัทต่าง ๆ ในขั้นตอนการสืบราคากลางก่อนเริ่มโครงการ

พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวต่อว่า โดยบริษัทต่าง ๆ แจ้งว่ารางปล่อยเดิมของ กองทัพเรือ ที่มีใช้ราชการอยู่สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่ กองทัพเรือ มีประจำการอยู่แล้วได้เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย ซึ่งหาก กองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วยจะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม ซึ่ง กองทัพเรือ พิจารณาแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่ กองทัพเรือ มีอยู่จริง

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่า จากเดิมจ่ายเต็ม หากได้รับมอบสินค้าแล้ว เป็นไปตรวจสอบที่โรงงานผู้ผลิตก็ได้เงินแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขั้นตอนการตรวจรับที่โรงงาน (Factory Acceptance Test : FAT) เป็นขั้นตอนการตรวจสอบชิ้นส่วนการผลิต สายการผลิต และมาตรฐานการผลิตของโรงงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ กองทัพเรือ ว่าทางผู้ผลิตมีความพร้อม และมาตรฐานเพียงพอในการดำเนินการโครงการจนแล้วเสร็จและ กองทัพเรือ จะได้รับประโยชน์สูงสุด แล้วจึงจ่ายเงินร้อยละ 35 ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินทั้งหมดทั้งโครงการ ในส่วนขั้นตอนการบินทดสอบเพื่อทำการบินจริงเป็นขั้นตอนงวดงานสุดท้าย หรือกระบวนการทำ Setting to work ที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยบริษัทจะเข้าดำเนินการในห้วงเดือน ส.ค. 2566

จากการกล่าวอ้างว่า กองทัพเรือ ต้องการจัดซื้อผ่านตัวแทนผู้จำหน่ายที่ได้รับมอบอำนาจตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ขอชี้แจงว่า ตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) นั้น กองทัพเรือ ได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งตัวแทนแล้วพบว่า บริษัทฯ ดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องจากผู้แทนในประเทศไทย โดยทางบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศได้กำหนดเงื่อนไขให้บริษัทผู้แทนโดยถูกต้องในประเทศไทยสามารถแต่งตั้งช่วงได้ตามที่บริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศกำหนดไว้ โครงการดังกล่าวนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งมอบงานงวดสุดท้าย ได้แก่ การทดสอบทดลองการบินจริง (Setting to Work) ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตแจ้งว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการบินเป้าบินไอพ่นเข้ามาทดสอบทดลองด้วยการบินจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ ในห้วงเดือนส.ค.2566 และหากทางบริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบงานได้ทันตามกำหนด กรมสรรพาวุธทหารเรือ จะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว.