เมื่อวันที่ 3 ก.ค. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สวญ.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าพนักงานทางหลวงและตำรวจทางหลวงกก.8 บก.ทลซึ่งรับผิดชอบด่านเก็บเงินถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออก(ทล.พ.9) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ได้มีหารือทำงานร่วมกันหลังพบว่ามีรถยนต์ที่ใช้ป้ายแดง ลักลอบขับเข้าใช้ช่องทางระบบ M Flow ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) และมียอดค้างชำระค่าผ่านทางเป็นจำนวนมากหลายคัน

สกัดจับหนุ่มเบี้ยวจ่าย M-Flow 266 เที่ยว คาด่านเก็บเงินพัทยา โดนปรับเฉียดแสน

ทั้งนี้ปรากฎว่าในจำนวนนี้มีรถในข่ายเฝ้าจับตากว่า 20 ป้ายทะเบียน ที่ขับเข้าใช้ช่องทางระบบ M Flow โดยมียอดค้างชำระค่าผ่านทาง 300-400 รายการขึ้นไป โดยในกรณีของการจับกุมนายเติม นัว อายุ 32 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมรถกระบะป้ายแดง ก-5132 ชลบุรี นั้นก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เข้าข่ายเฝ้าจับตา ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ารถทะเบียนป้ายแดงคันดังกล่าวมีการหลีกเลี่ยงการชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow กว่า 266 เที่ยว และมีคนขับรถมีพฤติกรรมขับรถในเวลากลางคืนตามวงรอบกรอบเวลาที่แน่นอน จึงได้นำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบรถกระบะคันดังกล่าวขับมาจึงได้สกัดจับได้ขณะขับเข้ามาที่ด่านเก็บเงินพัทยา

ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น แบ่งออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรก ดำเนินคดีนายเติม นัว ชาวกัมพูชา ในฐานะ ผู้ขับในความผิดฐานใช้ยานยนต์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ตามกฎกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ในส่วนที่สองได้ทำการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถที่มีการจดทะเบียน ซึ่งเป็นนายจ้างของนายเติม จึงได้เรียกมานายจ้างชำระผ่านทางพร้อมค่าปรับ เป็นเงิน 71,580 บาทกับเจ้าพนักงานทางหลวง ที่รับผิดชอบเอ็มโฟร์

อย่างไรก็ตามตำรวจทางหลวง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ใช้บริการ M-Flow ต้องชำระค่าผ่านทางภายใน 7 วัน หากเกิน 7 วันจะต้องจ่ายค่าปรับ 10 เท่าของค่าผ่านทาง จึงขอความร่วมมือให้ผู้ใช้บริการ M-Flow ชำระค่าผ่านทางในเวลาที่กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับในส่วนที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งผู้ที่ใช้ป้ายแดงหรือป้ายแดงปลอมทางลักลอบใช้ช่องทางเอ็มโฟร์ ก็ถือว่าเป็นความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะเข้มงวดกวดขันในส่วนนี้เช่นกัน.