เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีนายทุนชาวจีน ทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ว่า ทางอุปทูตจีนและเอกอัครราชทูตจีน ขอให้ตนกวาดล้างขบวนการจีนอุ้มจีน และจีนหลอกจีนให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ไม่เช่นนั้นจะส่งผลให้คนจีนไม่กล้าเดินทางเข้ามาประเทศไทย เรื่องเหล่านี้ส่งผลต่อทั้งภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งมีรายได้มหาศาล ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนลงไปกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ โดยทางจีนหลายท่าน รวมถึงอุปทูตจีนท่านใหม่ มีการพูดคุยกันตลอด ทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลจากกันอีกด้วย ฉะนั้นวันนี้ในเรื่องขบวนการต่างๆ รวมถึง ตู้ห่าว ที่มีการจับกุมไปแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีขบวนการของผู้หญิงได้สัญชาติไทยโดยมิชอบทางกฎหมาย โดยทางกระทรวงมหาดไทยได้ถอนสัญชาติไปแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2-3 ราย ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยคนจีนที่มีฐานะ และอยู่ไทยมาประมาณ 20-30 ปี มีความอยากได้สัญชาติไทย เมื่อถูกกระทรวงมหาดไทย เพิกถอนสัญชาติบุคคลเหล่านี้ จะไม่ได้กลับไปใช้สัญชาติจีน แต่จะเป็นบุคคลไร้สัญชาติ จากนั้นจะต้องนำตัวไปห้องกักสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหากตรวจพบว่ามีหมายจับของทางการจีน ทางรัฐบาลจีน จะต้องทำเรื่องขอหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต้องเรียนว่า การได้สัญชาติไทยโดยมิชอบ ตนร่วมกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทย มีการตรวจสอบร่วมกัน เพื่อไม่ให้มีลักษณะการกลืนชาติ เพราะอาจจะทำให้คนไทยไม่มีที่ยืน โดยวันนี้มหาดไทย ได้เพิกถอนสัญชาติไป 1 ราย ซึ่งเป็นชาวจีนที่มีฐานะ การเงินสูง แต่ตนขอไม่เอ่ยชื่อ ขณะนี้ อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุม เพื่อนำตัวมาควบคุมห้องกักกันของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะจีน จะมีได้เพียงสัญชาติเดียว หากไปใช้สัญชาติอื่นจะต้องเสียสัญชาติจีนไปโดยอัตโนมัติ แต่หากถูกเพิกถอน ก็จะกลายเป็นบุคคลไร้สัญชาติทันที