นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศเรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน หลังพบว่าในปี 66 มีนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเข้าข่ายจะถูกขีดชื่อ 2,880 ราย เพื่อช่วยอัพเดทฐานข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ ให้เป็นปัจจุบัน ส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถค้นหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจหรือวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการหยุดยั้งไม่ให้มิจฉาชีพนำนิติบุคคลที่ไม่มีการเคลื่อนไหวธุรกิจแล้วมาหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าธุรกิจเหล่านี้มีตัวตนและยังคงดำเนินธุรกิจอยู่

“การขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากข้อสันนิษฐานว่านิติบุคคลนั้นไม่ได้ยื่นรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี นับตั้งแต่จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท โดยเมื่อพ้น 90 วันนับตั้งแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลจำนวน 2,880 รายนี้ จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะมีการระงับขีดชื่อหรือแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น”

นายทศพลกล่าวว่า แม้ว่านิติบุคคลรายใดจะมีสถานะร้างหรือสิ้นสภาพนิติบุคคลไปแล้ว หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วนกรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นยังคงต้องมีความรับผิดชอบในนิติบุคคลนั้นอยู่ รวมถึงอาจคืนสู่ทะเบียนได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน โดยการร้องขอต่อศาลนั้นเอง

ทั้งนี้ กรมฯ ฝากเตือนไปถึงนิติบุคคลจะต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อลดภาระในการดำเนินธุรกิจทั้งการเสียเวลา ค่าใช้จ่าย และค่าปรับต่างๆ พร้อมสร้างบรรทัดฐานที่ดีด้านความโปร่งใสในการทำธุรกิจของประเทศไทย รวมไปถึงการปรับฐานข้อมูลนิติบุคคลที่ไม่มีสถานะในการทำธุรกิจแล้วในทุกๆ ปี จะช่วยตัดวงจรของการนำนิติบุคคลที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจนำชื่อไปแอบอ้างหลอกลวงประชาชน

“ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทที่จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อคู่มือทำธุรกิจ เลือกบริการข้อมูล เลือก จดทะเบียนธุรกิจ และเลือก ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน”