จากความคืบหน้าแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ซึ่งกำลังจะทยอยออกแนวทางและมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยสิ่งที่แบงก์ชาติเป็นห่วงมี 4 ด้าน หนี้ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ หนี้เสีย หนี้เรื้อรัง หนี้ใหม่เพิ่มขึ้นเร็ว และหนี้นอกระบบ เพราะล้วนเป็นต้นตอของปัญหาหนี้ครัวเรือน จากปัจจุบันหนี้ครัวเรือนมีอยู่ 16 ล้านล้านบาท หรือ 90.6% ต่อจีดีพี

โดยเฉพาะหนี้เรื้อรังที่แบงก์ชาติจะเริ่มแก้ไขก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งเป็นหนี้ที่ยังไม่เป็นหนี้เสียและมีโอกาสเห็นทางปิดจบหนี้ได้ แล้วใครบ้างที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง ลักษณะของหนี้เรื้อรังเป็นอย่างไร

ลักษณะของหนี้เรื้อรัง คือ

1. กู้หนี้ใหม่ไปจ่ายหนี้เก่า

2.จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น

3.จ่ายขั้นต่ำบัตรกดเงินสด ไม่จบไม่สิ้น

4.หมุนเวียนหนี้ ปิดจบหนี้ไม่ได้

5.กู้สหกรณ์เพิ่มตามเงินเดือนที่เพิ่มจนเกษียณ

6.หนี้เกษตรกรที่ชำระดอกเบี้ยเป็นหลัก

สำหรับแนวทางแก้ไขหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt) เป็นลูกหนี้ Revolving Personal Loan หรือเป็นหนี้ส่วนบุคคลหมุนเวียน แม้จะจ่ายหนี้ได้แต่ปิดจบหนี้ไม่ได้หรือต้องใช้เวลานานมากเกินไป ซึ่งสามารถแก้ไขได้ตามแนวทางเบื้องต้นของแบงก์ชาติ

– ลูกหนี้เรื้อรังปกติ จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เป็นระยะเวลา 3 ปี วิธีคือ ต้องให้สถาบันการเงินส่งแจ้งให้ลูกหนี้ปรับพฤติกรรมก่อนกลายเป็นหนี้เรื้อรังรุนแรง โดยแจ้งว่าเป็นหนี้เรื้อรัง เพราะจ่ายดอกเบี้ยมาก ควรเพิ่มการจ่ายชำระเพื่อปิดหนี้ไวขึ้น และอธิบายลูกหนี้ว่าหากต้องจ่ายแต่ขั้นต่ำต่อเนื่องกว่าจะปิดหนี้ต้องเสียดอกเบี้ยมากเท่าไร

– ลูกหนี้เรื้อรังรุนแรง จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี วิธีคือ ให้ทางเลือกลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ ให้จบหนี้ภายใน 5 ปี ค่างวดต่อเดือนต้องให้ลูกหนี้สามารถจ่ายชำระได้ และได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง หรืออาจกำหนดเงื่อนไขการเข้ามาตรการ เช่น ปิดวงเงินโดยอาจมี room สำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือมีระบบบันทึกประวัติการได้รับความช่วยเหลือ

ด้าน “ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า แนวทางเบื้องต้นแก้หนี้เรื้อรังซึ่งเป็นคนที่กู้หนี้หมุนเวียนมาโปะหนี้เก่า ปิดจบหนี้ไม่ได้ จ่ายดอกเบี้ยสะสมมากกว่าเงินต้น มีรายได้น้อย จะมีเกณฑ์ให้เหมาะสมกับระดับรายได้ และจะให้ แปลงหนี้ก้อนนี้มาเป็นเทอมโลนแบบมีระยะเวลาภายใน 5 ปี ดอกเบี้ยน้อยกว่า 15% ต่อปี โดยให้ธนาคารเสนอมาตรการแก่ลูกหนี้ และเป็นความสมัครใจลูกหนี้ รวมทั้งจะต้องถูกบันทึกในเครดิตบูโรด้วย คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในวันที่ 1 เม.ย. 67

นอกจากนี้ ธปท. จะออกแนวทางปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบในไตรมาส 3 ปีนี้ และจะออกใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 67 เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน หลักการจะให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม เปลี่ยนพฤติกรรมคนกู้และคนให้กู้ ตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้ ตอนเป็นหนี้ หนี้ที่เป็นปัญหา หนี้ที่ถูกโอนออกไป และเกี่ยวกับการโฆษณากระตุ้นการกู้ บอกข้อมูลไม่ครบ บางโฆษณาไม่บอกดอกเบี้ย ไม่บอกระยะเวลาการผ่อน โดยหวังว่าจะให้สถาบันการเงินต้องบอกข้อมูลลูกหนี้อย่างครบถ้วน ปรับพฤติกรรมไปในทางที่ถูก เปรียบเทียบให้เห็นดอกเบี้ย เป็นต้น