เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายยศดนัย บูละ หนึ่งในครอบครัวที่มีผู้สูญเสียจากเหตุเพลิงไหม้โกดังดอกไม้ไฟในพื้นที่ ต.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เล่าถึงนาทีที่กลับมาถึงบ้าน หลังจากเห็นเพลิงไหม้ และได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทันทีที่กลับมาถึงบ้าน พบว่าทั้งบ้านตนเอง บ้านยาย และบ้านพ่อ พังเสียหายจากแรงระเบิดและเกิดเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนเองได้เข้าไปช่วยเหลือ ยาย นำไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน

ส่วนพ่อนั้นพบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยนอนอยู่กับหลานอีกคน ทั้ง 2 ถูกไฟไหม้ทั้งตัว จึงรีบไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านซึ่งติดในตัวอาคาร ร้องขอความช่วยเหลืออยู่อีก 3 คน ก่อนจะกลับมาสำรวจบ้านญาติ ๆ ของตนเองในละแวกเดียวกัน ซึ่งก็พบหลานวัย 8 เดือน กระเด็นมานอกตัวบ้าน ในขณะที่แม่ของหลานนอนเสียชีวิตภายในตัวบ้าน หลังจากถูกเสาทับและไฟไหม้ทั้งตัว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุการณ์ที่หนักมาก ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน

เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าตกใจและเสียใจมาก ที่ผ่านมาพ่อของตนเคยเตือนเจ้าของโกดังและมีปากเสียงกันมาโดยตลอด เพราะพ่อกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ กลัวเหตุไฟไหม้ เหตุระเบิด โดยลอตล่าสุดที่ขนมาก่อนเกิดเหตุ น่าจะขนมาก่อน 2-3 วัน ซึ่งพ่อไม่น่าจะทราบ เพราะเคยบอกไว้แล้วว่า ถ้ายังขนมาเก็บไว้อีกจะแจ้งความ แต่ก็ยังไม่ทันแจ้งความก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก่อน เกิดความสูญเสียกับทุกคนในชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวมาโดยตลอดและสุดท้ายเกิดขึ้นจริง จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานเกี่ยวข้องทั้งหมด ช่วยจริงจังกับการตรวจสอบพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะชุมชน ไม่ควรมีวัตถุไวไฟหรือของอันตราย และควรเร่งหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ขณะที่ นางอาซียะห์ อาแซ อายุ 62 ปี กล่าวว่า ตนเองอยู่บนบ้านอยู่กัน 4 คน นอนเล่นอยู่กับแล้วก็ลูกสาว หลานคนเล็กอายุ 2 ขวบ หลานคนโตอยู่ในห้องน้ำ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงบึ้มดังสนั่น บ้านทั้งบ้านพังลงมารวดเดียว ตนรีบเอาร่างตัวเองไปบังหลานคนเล็ก เพื่อไม่ให้เป็นอะไร ตอนนี้เด็กไปอยู่กับแม่แล้ว สำหรับตนนั้นทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ตอนน้ำท่วมยังสามารถล้างบ้านกลับมาขายของกันใหม่ได้ แต่ครั้งนี้บ้านพังทลายจนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หลานคนโตที่อยู่ในห้องน้ำก็โดนกำแพงถล่มลงมาทับขา ตนและหลานต้องล้มลุกคลุกคลานกันออกมาจากซาก จากนี้ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาซ่อมแซมบ้าน มืดไปหมด คิดไม่ออก ตนคงต้องย้ายไปอยู่กับลูกสาวก่อน วอนฝ่ายงานเกี่ยวข้อง หากจะช่วยเหลือ ตนขอให้ช่วยหาทางซ่อมแซมบ้านให้ตนและหลาน กลับมาอยู่ด้วยกันต่อไปด้วย