จากกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แถลงผลการหารือร่วมกับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคการเมือง ฉีก MOU 8 พรรค โดยทิ้งให้ “พรรคก้าวไกล” ให้ไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมเดินหน้าตั้งรัฐบาลใหม่ และจะเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลที่ทางก้าวไกล ไม่ถอย ม.112 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
-ด่วน! พท.ฉีก MOU สลายขั้ว 8 พรรค ทิ้ง ‘ก้าวไกล’ ให้ไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว

โดยหลังจากที่มีแถลงข่าวดังกล่าวออกมาของพรรคเพื่อไทย ทำให้โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวดังกล่าวอย่างร้อนแรง โดยหนึ่งในนั้นคือ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์และหัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แสดงความเห็นล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ถึง “สิ่งที่พรรคก้าวไกลควรจะทำ” ผ่านแฟนเพจ @ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง

1.แม้ MOU ของแปดพรรคยุติลง แต่ต้องไม่ลืมว่าพรรคก้าวไกลก็ยังคงเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากอันดับหนึ่งมากกว่าทุกพรรค จึงยังคงมีความชอบธรรมในการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี

2.ในการประชุมที่จะเกิดขึ้นครั้งใหม่ สมาชิกพรรคก้าวไกลต้องลุกขึ้นท้วงประธานรัฐสภา ถึงการวินิจฉัยในครั้งก่อนว่าเป็นความผิดพลาด (อ้างอิงความเห็น 115 คณาจารย์นิติศาสตร์, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และอื่น ๆ) หากประธานยังคงดื้อดึงความเห็นดังกล่าว การกระทำนี้ ก็จะกลายเป็นหลักฐานยืนยันถึงความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ในอนาคตข้างหน้า

3.เมื่อการเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งนายรัฐมนตรี ไม่อาจนำเอาข้อบังคับมาใช้ สมาชิกของพรรคก้าวไกลก็ต้องเสนอชื่อพิธา อีกครั้งหนึ่ง แม้หากพรรคการเมืองอื่น ๆ จะเสนอชื่อด้วยก็ตาม ดังที่พรรคเพื่อไทยก็ประกาศอย่างชัดเจน ก็จะต้องให้มีการแข่งขันและทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บัดนี้พรรคเพื่อไทยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่เป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตย

4.หากยังถูกปิดกั้นไม่ให้เสนอชื่อพิธา พรรคก้าวไกลก็ควรต้องมีมติไม่เห็นชอบกับรายชื่อที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา เมื่อการลงคะแนนในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปตาม MOU ที่ได้เคยตกลงเอาไว้ จึงย่อมเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการลงคะแนนไม่เห็นชอบ

5.ท้ายที่สุดแล้ว พรรคก้าวไกลอาจพ่ายแพ้ในการลงคะแนนในรอบที่จะเกิดขึ้น แต่การทำให้พรรคการเมืองที่ตระบัดสัตย์มีต้นทุนที่แพงที่สุดคือแนวทางที่พรรคก้าวไกลควรจะทำ ไม่ใช่ต้นทุนเฉพาะในวันนี้ แต่รวมถึงในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย…

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง