เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมไปทำกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ว่า เท่าที่ได้รับรายงานกลุ่มทะลุวังที่ไปกระทรวงวัฒนธรรม ผิดหลายข้อหา โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมได้มาเป็นผู้กล่าวหาแล้ว ในเรื่องบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ซึ่งมีอัตราโทษสูง ตำรวจได้ดำเนินคดีอยู่ ได้ออกหมายเรียกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ทราบว่าจะมีการมากล่าวหาดำเนินคดี ซึ่งข้อหาก็คงคล้ายๆ กัน คือ บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ใครที่เคยได้รับการประกันตัว หรือทำผิดซ้ำซาก ก็มีโอกาสที่จะถูกเพิกถอนประกัน จึงอยากจะเตือนว่าสิทธิการชุมนุม ทุกคนมีสิทธิที่จะชุมนุมได้ แต่ว่าต้องชุมนุมอยู่ในกรอบกฎหมาย อย่าถือว่าท่านไม่รับรู้อะไร แล้วมาโวยวายทีหลังว่าอะไรเป็นสิทธิของประชาชน ไม่ได้ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด จึงอยากเตือนว่าทุกคนมีกรอบกฎหมายเท่ากัน แต่ละครั้งที่ทำเท่ากับความผิด 1 กรรม

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า บางคดีหากเป็นความผิดเสียหายต่อรัฐ ตำรวจก็สามารถดำเนินคดีได้เลย บางข้อหาตำรวจสามารถดำเนินคดีได้อยู่แล้ว แต่หน้างานหากเหตุไม่รุนแรงมาก อาจจะหลีกเลี่ยงการจับกุมซึ่งหน้า หากจำเป็นก็ต้องจับกุมซึ่งหน้า เป็นไปตามแนวทางที่เคยดำเนินการไว้ ทุกคดีเราจะดำเนินคดีย้อนหลัง จึงอยากจะเตือนว่าทำอะไรให้คิดถึงหลักกฎหมายด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการกระทำผิดซ้ำ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลหรืออัยการที่จะต้องพิจารณาหลักฐานว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ ฟ้องตำรวจจะทำตามหน้าที่ของตำรวจไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่อยากฝากเตือนน้องๆ ว่าความเห็นต่างเป็นสิทธิแต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ชุมนุมก็เป็นสิทธิที่จะชุมนุมได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายหากไปรบกวนหรือเข้าไปปิดกั้นอะไรต่างๆ เป็นการเข้าข่ายกระทำผิดฐานบุกรุกหรือการรบกวนการครอบครองสิทธิ

เมื่อถามต่อถึงผู้ทำกิจกรรมที่ติดเงื่อนไขกับศาลตำรวจจะพิจารณาดำเนินการอย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า จะเสนอต่ออัยการ ซึ่งจะเสนอทั้งหมด เพราะกฎหมายเท่าเทียมกัน ใครที่เคยทำผิดซ้ำก็ต้องพิจารณา หากยังมีการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องดำเนินการไปตามวิธีการของเรา

เมื่อถามถึงมาตรการการดูแลความเรียบร้อยหลังจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทุกพื้นที่ทราบอยู่แล้วว่า อะไรมีโอกาสที่จะเกิดเหตุ ในแต่ละพื้นที่จะต้องมีมาตรการรองรับในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) ทาง ผบก.น.1 ได้วางกรอบอยู่แล้วว่าพื้นที่ไหนจะมีม็อบจะต้องมีแผนรองรับไว้ทั้งหมด

ผบ.ตร. กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ทาง บก.น.1 จะต้องประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม หากมีการประชุมหรือมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาล จะต้องเตรียมมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น ตำรวจทำงานตามการข่าวอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวก็เป็นกลุ่มที่มีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว