จากกรณีนายสมชาย แก้วโกมล อายุ 54 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เบอร์ 44 เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงฆ่ายกครัวของอดีตคนรัก รวม 4 ศพ ก่อนปลิดชีพตนเองเพื่อหลบหนีความผิด หลังไม่สามารถติดต่อและตามง้อขอคืนดีอดีตแฟนสาวได้ เหตุเกิดภายในซอยแจ้งวัฒนะ 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 8 ส.ค. ลูกชายของภรรยาเก่า และเพื่อนรุ่นน้องวินมอเตอร์ไซค์ของนายสมชาย ได้ทำการจุดธูปพร้อมทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ เพื่อพาดวงวิญญาณของนายสมชายกลับบ้าน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ ‘ป่อเต็กตึ๊ง’ ขนย้ายศพโดยรถตู้สีขาว เลขทะเบียน 1 นฆ 5810 กรุงเทพมหานคร เพื่อพาไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลในศาลาชุมชนก้าวหน้า ซอยแจ้งวัฒนะ 6 ภายหลังจากการเคลื่อนย้ายศพออกไป เพื่อนวินมอเตอร์ไซค์ และลูกชายภรรยาเก่าของนายสมชาย ได้เดินหลบผู้สื่อข่าวและไม่ให้สัมภาษณ์ ออกไปด้านข้าง

ต่อมาเวลา 15.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ชมพู่ ญาติและนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้เดินทางมาถึง ซึ่งทันทีที่เดินทางมาถึง น.ส.ชมพู่ พร้อมญาติ ได้เดินทางเข้าไปดูศพทั้ง 4 คน ในห้องเก็บศพทันที ด้านนางปวีณาเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางมูลนิธิฯ ได้รับแจ้งร้องเรียนจากนางสาวชมพู่ผ่านทาง facebook โดยนางสาวชมพู่มีอาการเครียด นอนไม่หลับทั้งคืน และสภาพจิตใจย่ำแย่อย่างมาก จึงประสานขอให้ทางมูลนิธิ เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจและค่าทำศพทั้ง 4 ศพ เนื่องจากนางสาวชมพู่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดงานศพ

โดยทางมูลนิธิได้ประสานที่จะให้นำทั้ง 4 ศพ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม โดยจะจัดพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.30 น. และสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 18.00 น. อีกทั้งได้ประสานกับทาง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ว่า จะพานางสาวชมพู่ ไปให้การเพิ่มเติมภายหลังจัดการพิธีศพแล้วเสร็จ

นางปวีณา ระบุว่า สถานะความสัมพันธ์ระหว่างนายสมชาย ผู้ก่อเหตุ กับนางสาวชมพู่นั้น ทั้งคู่ได้หย่าขาดเลิกรากันไปสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นการหย่ากันด้วยดีและฝ่ายชายขอหย่าเอง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชายยังคงตามมาง้อขอคืนดี แต่ด้วยความที่ฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงโดยตลอด น.ส.ชมพู่ จึงไม่อยากกลับไป กลายเป็นว่าฝ่ายชายพยายามพูดข่มขู่ น.ส.ชมพู่ ตลอดว่า ถ้าหากว่าไม่คืนดี จะทำให้นางสาวชมพู่เสียใจที่สุด ช้ำใจที่สุด ซึ่งที่ผ่านมานางสาวชมพู่ไม่เคยรู้เลย ว่านายสมชายจะกระทำการรุนแรงถึงขนาดนี้ และยังสงสัยว่า เหตุใดถึงลงกับครอบครัว ลงกับลูก ได้ถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตาม นายสมชายไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการคบซ้อนนั้น ไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ

นางปวีณา ยังเล่าอีกว่า สาเหตุที่นางสาวชมพู่ไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จัดงานศพให้ลูก เพราะเนื่องจากเมื่อวานนี้ ก่อนเกิดเหตุนางสาวชมพู่เพิ่งโอนเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าเล่าเรียนให้กับบุตรทั้งสองคนที่เสียชีวิต และเมื่อวานนี้ตอน 19.30 น. ลูกชายวัย 9 ขวบ ได้โทรฯ มาหาตน แต่ไม่มีเสียงพูดจากฝั่งลูกชาย ซึ่ง น.ส.ชมพู่ ก็สงสัยว่า ทำไมถึงไม่มีเสียงอะไรเลย จึงคาดว่าตอนนั้น ลูกชายอาจจะโทรฯ มาขอความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าพูด ภายหลังจึงทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิงแล้ว

อดีตเมียวินจยย.คลั่งฆ่ายกครัว ร้อง “ปวีณา” สภาพจิตใจแย่ ไม่มีเงินจัดงาน 4 ศพ

ทั้งนี้ นางปวีณายังสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอีกว่า เกิดขึ้นถี่อย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.ชมพู่ รวมทั้งยืนยันว่า มูลนิธิจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางคดีและจัดการงานศพให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำศพ ทั้ง 4 ศพ ออกมาจากนิติเวช เพื่อนำขึ้นรถอาสาสมัคร ซึ่งในระหว่างนั้น น.ส.ชมพู่ ได้เข้าไปโอบกอดทีละศพและร่ำไห้ออกมา โดยเฉพาะศพลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบนั้น น.ส.ชมพู่ เป็นคนอุ้มขึ้นรถด้วยตนเอง บรรยากาศในขณะนั้น เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหดหู่ใจอย่างยิ่ง