เมื่อเวลา 23.13 น. วันที่ 14 ส.ค. ท่านอ้น วิรัชเรศวร วิวัชรวงศ์ และ ท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ เดินทางออกจากโรงแรมที่พักย่านหลังสวน กรุงเทพมหานคร มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อเดินทางกลับยัง มหานครนิวยอร์ก ประเทสหรัฐอเมริกา โดยสายการบิน เอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 377 ออกเดินทางจากประเทศไทยในเวลา 02.50 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เพื่อเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นต่อเครื่องบินของสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 201 เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอมริกา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการเดินทางกลับครั้งนี้ ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ และ ท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยเข้าทางประตู 10 และทำการเช็กอินยังเคาน์เตอร์ของสายการบินเอมิเรตส์ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเรียบง่าย และต่างได้รับความสนใจจากกองทัพสื่อมวลชน ที่เดินทางมาร่วมบันทึกภาพและรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก

ท่านอ้น วิรัชเรศวร วิวัชรวงศ์ ได้เปิดเผยความรู้สึกกับสื่อมวลชนโดยมีท่านอ่อง นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ยืนอยู่ข้างๆว่า ขอบคุณมากครับที่มาส่ง อาทิตย์นี้ค่อนข้างยุ่งเหยิงหน่อย เราก็มาแค่ไม่กี่วัน ผมมาเจ็ดวันแปดวัน น้องมาก็มาสามสี่วัน ก็เป็นอาทิตย์ที่ไปค่อนข้างเร็ว มีหลายอย่างที่เราอยากจะทำ อยากจะดูที่เมืองไทย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ใจเราต้องการอยากจะเติมให้เต็ม แต่เวลาก็น้อยเกินไป ตั้งแต่มาที่ประเทศไทยคราวนี้ ก็ได้ความรักความอบอุ่นจากทุกคนที่เราพบเจอ ก็ได้พบเจอกับคนไทยที่หลากหลายวิถีชีวิต ได้คุยกับเขาค่อนข้างใกล้ชิด และได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับเพื่อนชาวไทยของเราในประเทศนี้ หลังจากที่แยกจากกันมานาน ก็ได้เติมเต็มในหัวใจอีกทีหนึ่ง

ท่านอ้น วิรัชเรศวร วิวัชรวงศ์ กล่าวด้วยว่า อะไรที่เป็นช่องโหว่ในรูของหัวใจก็เติมเข้ามาให้เต็ม เป็นความรู้สึกที่ดีเป็นอย่างมาก ทำให้เห็นชัดเจนว่า ประเทศของวันนี้ ประเทศไทยของ 27 ปีที่แล้ว ก็เป็นที่ที่ต่างกัน อะไรที่อยู่ในความสนใจ ความทรงจำของผมตอนเด็ก ๆ ก็อาจจะไม่อยู่แล้ว ก็มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาแทน ก็ไม่ได้แปลว่าเมืองไทยดีขึ้นหรือแแย่ลง แต่มันแค่เปลี่ยนแปลงไป ผมหวังว่า ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีแต่ความหวัง ชาวไทยมีแต่ความหวัง ความรักและความเคารพซึ่งกันและกัน จงให้เกียรติซึ่งกันและกัน จงฟังซึ่งกันและกัน ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม ในเมืองเราเป็นคนไทย เพื่อน พี่น้องชาวไทยด้วยกัน เราก็น่าจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ฟังซึ่งกันและกัน และมีความรักซึ่งกันและกัน ใครผิดใจกันขอให้อโหสิกัน หันเข้ามาหากัน

ท่านอ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและน้ำตารื้นว่า “ผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนึกในพระคุณของประเทศชาติ ดีใจที่เกิดมาในประเทศไทย คราวนี้ก็ต้องจากไปอีกแล้ว แต่ก็หวังว่า ในอนาคตผมกับน้อง ๆ ครอบครัว ก็จะได้กลับมาเยี่ยมเมืองไทยอีกหนหนึ่ง หวังว่าอีกไม่นาน ขอช่วงเราไม่อยู่นี้ก็ขอให้ทุกคนช่วยปกป้องรักษาประเทศไทยไว้ให้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ได้บนความยุติธรรม ความเสมอภาค รักกัน สามัคคีกัน เราก็หวังว่าจะมาใหม่ในเร็วๆ นี้”

หลังจากเปิดเผยความรู้สึกแก่สื่อมวลชนแล้ว “ท่านอ้น” วัชเรศร วิวัชรวงศ์ และ “ท่านอ่อง” นายแพทย์จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ จึงเดินเข้าไปภายในเกท ทั้งนี้คณะสื่อมวลชน และประชาชนที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมาร่วมส่ง และอวยพรให้ ท่านอ้น ท่านอ่อง “เดินทางปลอดภัย” และ “กลับมาใหม่นะคะ” ซึ่ง ท่านอ้น ยังโบกมืออำลาทุกคน.