จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าระงับเหตุที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งได้เปิดเพลงเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ก่อนมีครอบครัวหนึ่งออกมาโวยวายและด่าทอตำรวจสายตรวจพร้อมทั้งกล่าวอ้างคนนามสกุลดัง และอ้างรู้จักตำรวจมากมาย จนกลายเป็นกระแสดราม่าในสังคมออนไลค์ ซึ่งทางด้านครอบครัวดังกล่าวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมทั้งระบุว่า วันนี้จะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และเข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้อบรมลูกน้อง นั้น

เอาผิด6ข้อหาหนักครอบครัวหัวร้อน เปิดเพลงเสียงดัง ตร.เตือนกลับด่าทอไม่พอใจ

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ไม่ปรากฎว่าครอบครัวดังกล่าวเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยมีรายงานว่าทางครอบครัวยังไม่พร้อมมาพบพนักงานสอบสวน และขอเลื่อนนัดไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 17 ส.ค. แทน

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.ท. ไมตรี บูรณทอง รองผกก.ป. สภ.เมืองสมุทรปราการ และ ส.ต.ต.สุรวีร์ วีระชาติ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองสมุทรปราการ สายตรวจที่เข้าระงับเหตุ ตั้งโต๊ะแถลงในเรื่องที่เกิดขึ้น

พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า กรณีมีคลิปการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฎในสื่อมวลชนต่างๆ นั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. เวลาประมาณ 22.26 น. ศูนย์วิทยุ 191 สมุทรปราการ แจ้งมายังศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ ว่า มีประชาชนแจ้งเหตุ เปิดเพลงส่งเสียงดัง บริเวณร้านอาหารใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศรีนครินทร์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางตรวจสอบ โดยมี ส.ต.ต.สุรวีร์ ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจทรัพย์บุญชัย เดินทางตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เมื่อเดินทางถึงพบว่าเป็นร้านอาหารมีการเปิดเพลงส่งเสียงดังจริง จึงได้ประชาสัมพันธ์กับกลุ่มประชาชนที่เปิดเพลงส่งเสียงดังให้ลดเสียงลงและเลิกการกระทำที่ก่อความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ภายในชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมากลุ่มประชาชนดังกล่าวได้เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้คำพูดในลักษณะดูหมิ่น ใช้กำลังผลักและตะโกนไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ

ต่อมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุได้เดินทางออกมาจากที่เกิดเหตุแล้ว ได้รวบรวมหลักฐานคลิปวิดีโอขณะปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบเหตุดังกล่าว แจ้งให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตามคลิปดังกล่าวรวม 6 คน โดยแจ้งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ จำนวน 6 ข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่สามคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 139 และมาตรา 140 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 138 วรรค 2 และมาตรา 140 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 136 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 391 โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 5.ร่วมกันเปิดเพลงเสียงดังทำให้เกิดเสียงหรือเกิดความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควรจนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อนด้วยการเปิดเพลงเสียงดังในสถานที่เกิดเหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 , 370 โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และ 6.ร่วมกันกระทำประการใดๆต่อผู้อื่นอันเป็นการข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 397 โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท กรณีกระทำในที่สาธารณะโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกกลุ่มผู้ต้องหาให้มาพบพนักงานสอบสวนไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 ส.ค. โดยกลุ่มผู้ต้องหาแจ้งจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 17 ส.ค. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าระงับเหตุ ได้กระทำการตามหลักกฎหมายและหลักยุทธวิธี ในการเดินทางตรวจสอบเหตุรวมทั้งประเมินสถานการณ์เหตุการณ์ และยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น จากเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุด และปฏิบัติตามขั้นตอนและหลักยุทธวิธี ในการใช้กำลังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่รุนแรงมากขึ้น ในส่วนของประชาชนเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความห่วงใย จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ผู้กระทำความผิดให้ตระหนักถึงกรอบของกฎหมาย หากมีการกระทำความผิดจะต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด” ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าว

พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ถ้าฝ่ายผู้ต้องหาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอให้ใช้สิทธตามกฎหมายได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าทำหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุดแล้ว ส่วน ส.ต.ต.สุรวีร์ ได้ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือโกรธเคืองกับกลุ่มผู้เสียหายมาก่อนแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. และ ผบ.ตร. ก็ได้กล่าวชื่มชมในการทำงานมาด้วย ส่วนการทำงานของ ส.ต.ต.สุรวีร์ ที่ผ่านมาก็เป็นคนที่ทำงานดีและขยันอดทนมาโดยตลอด

ด้าน ส.ต.ต.สุรวีร์ วีระชาติ ผบ.หมู่ (ป) กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ตนไม่ท้อ และยังได้กำลังใจ คำชื่นชมจากผู้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับตน อยากฝากไปยังเพื่อนๆ หรือพี่ๆ ตำรวจทั่วประเทศ ว่า เกิดเป็นตำรวจเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องเจอกันทุกคน แต่ความอดทนอดกลั้นของเราต้องมี จึงจะผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้.