เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลักไม้พะยูงของกลาง ในสำนักงานเทศบาล ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ผอ.ศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ว่า ได้ลงนามในคำสั่งสั่งย้าย ผอ.ศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ มาประจำสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (สจป.7 ขอนแก่น) แล้ว พร้อมมอบหมายให้ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น

ตะลึงคดีลักไม้พะยูงของกลางกาฬสินธุ์ ‘ผอ.ป่าไม้-นายก อบต.’ โดนแจ้งข้อหายักยอกของหลวง

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ร่วมเป็นคณะกรรมการประเมินราคาตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่มีการเปิดให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงในโรงเรียน จำนวน 22 ต้น ในราคา 1.53 แสนบาทด้วย อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ ส่วนการประเมินราคานั้น ทางกรมป่าไม้ก็มีราคากลางอยู่แล้ว ซึ่งหากรายระเอียดข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 จะรายงานมายังกรมป่าไม้ต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปีเดือน ม.ค. 2561 กรมป่าไม้ได้ออกหนังสือเวียน เรื่องรายงานผลการจัดทำรายงานรายละเอียดประเมินมูลค่าความเสียหายบรรดาไม้ และของป่า ถึง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 และ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา โดยระบุว่ากรมป่าไม้ได้จัดทำบัญชีราคาไม้แปรรูปของชนิดไม้หวงห้าม สำหรับประเมินมูลค่าความเสียหายไม้ท่อนและไม้แปรรูป เพื่อใช้เป็นราคากลางอ้างอิงสำหรับประเมินมูลค่าความเสียหายของไม้ท่อนและไม้แปรรูปที่ได้มีการจับกุมหรือดำเนินคดี เพื่อส่งพนักงานสอบสวนประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกำหนดราคากลางไม้พะยูง ราคาไม้แปรรูป 5 แสนบาท/ลบ.ม. ราคาไม้ท่อน 2.5 แสนบาท/ลบ.ม.