เมื่อวันที่ 26 ส.ค. จากกรณีสาววัย 24 ปี แฉคลิปฉาว ลอบมีสัมพันธ์สวาทพระหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ใน จ.สุรินทร์ นานกว่า 5 เดือน หลังสำนึกผิด กลัวตกนรก เผยที่ผ่านมาขอเลิก แต่พระชั้นผู้ใหญ่ไม่ยอมเลิกรา จึงต้องออกมาร้องสื่อเป็นกระบอกเสียง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อมาพบหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมให้ได้ชี้แจง แต่ได้รับแจ้งว่า หายออกไปจากสถานปฏิบัติธรรม พร้อมกับพระลูกวัดที่ติดตามมาด้วยจากประเทศลาว เมื่อช่วงกลางดึกของวานนี้ และไม่ทราบว่าไปไหน โดยทีมข่าวได้ขอให้พระลูกวัดอีกรูป พาไปที่กุฏิของหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรม พร้อมกับเปิดห้องนอนดู พบว่ามีเต็นท์นอน กลด และของใช้ทั่วไป แต่ไม่มีของใช้ส่วนตัว

จากนั้นทีมข่าวพบกับญาติโยม ขับรถกระบะมาจากเมืองสุรินทร์ เพื่อจะมาปฏิบัติธรรมวิปัสสนา 3 วัน ที่สถานปฏิบัติธรรม พอทราบข่าวก็กลับบ้านทันที ขอเวลาตั้งหลักก่อน เพราะตกใจที่เห็นข่าวที่เผยแพร่ออกไป

ด้านพระน้อย พระลูกวัด เล่าว่า อาตมาได้มาจำพรรษาที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ 5 เดือนแล้ว ไม่รู้ว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ทุกวันถึงเวลาค่ำ พระที่นี่ 7 รูป จะพากันเข้ากุฏิหมด พอมาช่วงเช้าทราบว่าหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรม และพระที่ติดตามได้พากันออกไปจากพื้นที่แล้ว ซึ่งคิดว่าน่าจะหนีออกไปเพราะข่าวที่ออกมา และเมื่อตนอยู่ครบพรรษาที่นี่แล้ว ตนก็จะออกจากสถานปฏิบัติธรรมนี้ เพื่อจะไปหาวัดอยู่ใหม่ เพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

ฉาวโฉ่วงการผ้าเหลือง สาวแฉคลิปมีสัมพันธ์สวาทพระหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมนาน 5 เดือน

ด้าน นายไสว ชนะชัย ผู้ใหญ่บ้านขามพัฒนา หมู่ 12 ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าได้ให้พระลูกวัดไปดูหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรม เพราะไม่เห็นออกมาทำวัตร จึงเดินตามหาแต่ไม่พบ ในกุฏิก็ไม่มีของใช้ส่วนตัว หายไปพร้อมกับพระลูกวัดอีก 1 รูป ที่ติดตามมาจากประเทศลาว จึงมั่นใจว่าหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรม ได้หลบหนีไปแล้ว เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และถ้าจะกลับมาอีกก็คงไม่ได้แล้ว เพราะทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง และจะไปจำวัดอยู่ที่ไหนอีกก็คงลำบาก เพราะเป็นข่าวดังขนาดนี้ คงจะไม่มีวัดไหนรับ

ด้านคุณยายสายทอง อายุ 67 ปี คนในหมู่บ้านขามพัฒนา กล่าวว่า ตนรู้จากข่าวและผู้ใหญ่บ้านได้บอกตน โดยตนก็ไม่สนใจ ในเมื่อหัวหน้าสถานปฏิบัติธรรมทำผิดก็รับผิดไป แต่จะเอาผิดอย่างไร เพราะท่านได้หายตัวไปแล้ว ส่วนเรื่องนี้เป็นเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับสถานปฏิบัติธรรม ชาวบ้านขามพัฒนาก็จะช่วยกันพัฒนาสถานปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งทำบุญตักบาตรกันเหมือนเดิม เพราะยังศรัทธาในพุทธศาสนา แต่ตนก็เสียใจที่พระนักพัฒนากลับมาปฏิบัติตัวผิดศีลขั้นร้ายแรงได้ขนาดนี้ ก็ปล่อยเป็นเวรกรรมให้ติดตัวเขาไป

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดวังปลัด ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่อขอพบพระครูโกศล สมาธิวัตร เจ้าคณะตำบล และเลขานุการเจ้าคณะอำเภอ แต่ไม่ได้พบ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไป ได้รับแจ้งว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เนื่องจากติดงานอยู่