เมื่อวันที่ 8 ก.ย. จากกรณีสำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานชาวภูเก็ตรวมตัวกันร้องเรียนหน่วยงานภาครัฐให้เข้าควบคุมชาวรัสเซียที่ประกอบธุรกิจบนเกาะ หลังเริ่มขยายตัวจนคุกคามกิจการคนไทย ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคมปีนี้ มีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาในไทยมากกว่า 400,000 คน เพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าจากช่วงก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่วนหนึ่งเข้ามาด้วยวีซ่าพำนักระยะยาว ประเภทลงทุน และซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ และเลี่ยงถูกเกณฑ์ทหาร หลังจากรัสเซียบุกโจมตีประเทศยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ปัญหาหลักที่ชาวภูเก็ตกังวล คือ การที่ชาวรัสเซียแห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ จนทำให้ที่อยู่อาศัยในภูเก็ตแพงขึ้น และเข้ามาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งมักจะดำเนินกิจการผ่านแอปพลิเคชันภาษารัสเซีย และมีการจ้างงานผิดกฎหมาย อีกทั้งยังทำธุรกิจค้าประเวณี เพื่อขายบริการทางเพศในกลุ่มคนรัสเซียด้วยกันโดยเฉพาะ

ล่าสุด ที่ห้องประชุมตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต โดย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดแถลงข่าวตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ รวมถึงจังหวัดภูเก็ต ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือได้กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุที่เป็นภัยอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย

สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เป็นจำนวนกว่า 2,569,052 คน โดยจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียจำนวน 487,504 คน (คิดเป็นร้อยละ 19.34) ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาท่องเที่ยวระยะสั้นๆ และเดินทางกลับ ในส่วนของนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย ที่มีวีซ่าระยะยาวและพำนักอยู่ใน จ.ภูเก็ต ปัจจุบัน มีจำนวน 9,275 คน (คิดเป็นร้อยละ 1.9) โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 66 ได้ปรากฏข่าวซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ จ.ภูเก็ต ในสื่อออนไลน์ ว่า “สื่อนอกตีข่าว ชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” โดยเนื้อหาข่าวได้กล่าวถึงการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์, การประกอบธุรกิจท่องเที่ยวหรือการขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน, การทำงานที่ผิดกฎหมายและแย่งงานคนไทย, การแอบเข้ามากบดานของคนร้ายสัญชาติรัสเซีย

จากสถิติการกระทำความผิดของคนต่างด้าว ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีคนต่างด้าวกระทำความผิดจำนวน 635 ราย ในจำนวนนี้ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซียจำนวน 78 ราย (คิดเป็นร้อยละ 12.28) โดยมีฐานความผิดที่เกี่ยวกับการทำงาน จำนวน 6 ราย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับหน่วยงานในดำเนินโครงการ “ที่พักสีขาวสำหรับชาวต่างชาติ (ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด) จ.ภูเก็ต” (Phuket Crime-Free) โดยให้เจ้าของที่พักและประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมกันสอดส่องชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยในจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการกับชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์ไม่พึงประสงค์หรือมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกภาคส่วน จนโครงการประสบผลสำเร็จ สามารถควบคุมและดำเนินการกับคนต่างด้าวที่กระทำความผิดอย่างเป็นรูปธรรม โดย ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้เป็นจังหวัดตัวอย่าง และให้จังหวัดอื่นๆ ดำเนินการตามโครงการนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ทาง จ.ภูเก็ต ขอเรียนให้ท่านทราบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน บูรณาการเพื่อตรวจสอบ และปราบปรามจับกุมชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำความผิด รวมถึงเฝ้าระวังพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรม พัฒนาแอปพลิเคชัน Traffy fondue เพื่อเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการแจ้งเบาะแส หากท่านใดพบเห็น หรือรับทราบการกระทำความผิดของคนต่างด้าว สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Traffy fondue หรือ ตม.จว.ภูเก็ต โทร. 08-7911-5850 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป

สำหรับเรื่องที่เป็นประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ “สื่อนอกตีข่าว ชาวภูเก็ตโวย รัสเซียแห่ทำธุรกิจยึดกิจการคนไทย” ชาวรัสเซียแห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ จนทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในภูเก็ตแพงขึ้น นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเด็นราคาอสังหาริมทรัพย์ฯ มีปัจจัยหลายปัจจัย หน้าที่หลัก ๆ ของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว คือการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาให้ได้มากที่สุด และเป็นนักท่องเทียวที่มีคุณภาพมากที่สุด วันนี้ชาวรัสเซียกลายเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่เข้ามาภูเก็ต แต่จะเห็นว่านักท่องเที่ยวรัสเซียที่อยู่ในระยะยาว มีจำนวนน้อยมาก เพราะฉะนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ไม่อยู่ที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาสูงขึ้น น่าจะเกิดจากปัจจัยการเปิดประเทศและสภาพเศรษฐกิจที่เติบโต ทำให้นักลงทุนนอกพื้นที่ที่มาลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้

ด้าน นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากที่มีรายงานข่าวขาวรัสเซียเข้ามาประกอบอาชีพขับรถรับจ้างโดยให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน โดยขนส่งจังหวัดได้ตรวจสอบจากช่องทางต่างๆ ที่รับเรื่องร้องเรียน ยังไม่พบข้อมูลชาวรัสเซียเข้ามาประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง แต่จะมีในส่วนของชาวต่างชาติสัญชาติเมียนมาที่ขับรถรับจ้าง ในส่วนนี้ทางขนส่งได้แจ้งไปยังจัดหางานจังหวัด เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งในส่วนของแอฟพลิเคชันต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นผู้รับผิดชอบ และตรวจสอบแอปพลิเคชันต่างๆ ในส่วนของขนส่ง จะตรวจสอบเฉพาะผู้ขับขี่ที่ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันเท่านั้น ซึ่งยังไม่พบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซียแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ รอง ผกก.2 บก.ทท.3 กล่าวว่า การทำธุรกิจการท่องเที่ยวในปัจจุบัน มีสถิติที่ยังน้อยกว่าก่อนช่วงโควิด ซึ่งข้อมูลที่ว่านักท่องเที่ยวรัสเซียทะลักเข้ามาแล้วทำเอฟเฟกต์ คิดว่าไม่มี และบริษัทนำเที่ยวที่สนามบินจะมีการแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวให้ตำรวจท่องเที่ยวทราบอยู่แล้ว ซึ่งมีประมาณ 15 บริษัท มีคนรัสเซียทำงานในบริษัทดังกล่าว และมีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สำหรับพวกที่เป็นประเด็นตามข่าว น่าจะไม่ได้เป็นบริษัททัวร์ อาจจะเห็นช่องทาง จึงมีการลักลอบทำผิดกฎหมาย ขอฝากความร่วมมือขอประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส.