จากกรณีนายธนัญชัย หรือ หน่อง หมั่นมาก คนสนิท กำนันนก หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.462/2556 ลง 7 ก.ย. 2566 ที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิต แต่คนร้ายต่อสู้ขัดขวาง ชักอาวุธปืนยิงใส่ต่อสู้จึงเกิดการยิงปะทะ ก่อนพบร่างนายธนัญชัย นอนสิ้นลมหายใจอยู่บริเวณข้างรถยนต์กระบะตัวเอง ขณะที่ กำนันนก ถูกคุมขังอยู่ในคุก นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายอ๊อฟ นักดนตรีภายในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก และเป็นพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะรับจ้างเล่นดนตรีที่บ้านของกำนันนกเสร็จ นายหน่อง ได้นำเงินค่าจ้างมามอบให้ ตอนนั้นเหตุการณ์ก็ปกติดี ทุกคนยังสนุกสนาน ตนก็ยังเดินไปไหว้ขอบคุณกำนันนกที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ แต่ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่ากำนันนกและนายหน่องจะเมา ก่อนที่ตนจะเดินหันหลังกลับมาเก็บของ เพื่อเตรียมกลับบ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมื่อหันมาดูพบว่าคนที่ยิงสารวัตรแบงค์ คือ นายหน่อง ทุกคนตกใจแตกตื่นและช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุมีกลุ่มชายประมาณ 5-6 คน เข้าไปจับตัวนายหน่อง และพูดว่า ให้ใจเย็นๆ แต่เห็นว่ามีตำรวจ 2 นาย ประคองกำนันนกไว้ แล้วพาทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน แต่ตนก็ไม่ทราบว่า ชายกลุ่มนั้นเป็นตำรวจหรือไม่ ส่วนตนเองก็ตกใจเหมือนกันรีบเก็บของออกมาทันที จึงไม่รู้ว่านายหน่อง และกำนันนกออกไปตอนไหน ส่วนตำรวจคนอื่นตนก็ไม่ได้สังเกตว่ารถวิ่งออกกันไปตอนไหนอย่างไรเช่นกัน

จากนั้นเหตุการณ์เงียบสงบ โต๊ะจีนเก็บของ แต่มีชายคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าเป็นตำรวจหรือไม่ เข้ามาห้ามไม่ให้พนักงานเก็บโต๊ะจีน ส่วนเรื่องมีคนสั่งให้ล้างคราบเลือดหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีใครสั่งให้ล้างคราบเลือด มีเพียงคนงานในสำนักงานของกำนันที่มีการทำความสะอาดโต๊ะยาว ซึ่งไม่เกี่ยวกับโต๊ะที่เกิดเหตุ

สำหรับนายโบ๊ทนั้น ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุ ตนไม่เห็นนายโบ๊ทอยู่พื้นที่จุดเกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านั้นนายโบ๊ทอ้างกับตนว่า ขอตัวกลับบ้านก่อน แต่ตนไม่ทราบเขาได้กลับบ้านจริงๆ หรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น สำหรับนายเก่งนั้น ตนยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยพูดคุยกัน

ทั้งนี้ ยอดรวมทั้งหมดของผู้ที่อยู่ในงานคืนเกิดเหตุ พบมีตำรวจ 28 นาย พลเรือน 24 ราย.