เมื่อวันที่ 19 ก.ย.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และอดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุว่า หลายมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล หวังว่าจะลุล่วงแก้ปัญหาได้จริง ส่วนทางด้านการเมือง นอกจากเรื่องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งมีรองนายกฯ เป็นผู้รับผิดชอบ และการแก้กฎหมายอำนวยความยุติธรรมให้ผู้สูญเสีย จากการใช้กำลังสลายการชุมนุม ที่ สส.พรรคเพื่อไทย ยื่นต่อประธานรัฐสภาเข้ากระบวนการไปแล้ว และพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะก้าวไกลก็มีท่าทีสนับสนุน

ผมขอเสนอประเด็นสำคัญ และควรพิจารณาเร่งด่วนอีกเรื่อง คือการปลดพันธนาการเรื่องคดีความ ให้คนทุกฝ่ายที่เห็นต่าง และเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเยาวชน คนหนุ่มสาวนับพันราย ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนมีคดีติดตัวเกินกว่า 20 คดี นิรโทษกรรมทุกคน ทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นกรณีความผิดถึงแก่ชีวิต ส่วนกรณีทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เกี่ยวข้องและไม่รวมอยู่ในเรื่องนี้ เริ่มต้นใหม่ สร้างสังคมที่คนเห็นต่างอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ มีคณะกรรมการพิจารณาการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ไม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ร้ายกัน

เมื่อรัฐบาลตั้งขึ้นโดยพรรคการเมืองที่ยืนขั้วตรงข้ามกันมาตลอด ก็น่าจะร่วมกันใช้โอกาสและเงื่อนไขทางการเมืองนี้ ทำให้คนทุกขั้วพ้นสถานะผู้ต้องหา กลับมายืนในฐานะประชาชน ตั้งต้นสร้างสังคมประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ชอบธรรม ลูกหลานที่ยังติดคุกจะได้ออกมา ที่อดอาหารอยู่ในคุกจะได้คืนสู่อิสระ ที่ลี้ภัยต่างแดนจะได้กลับบ้าน อย่าปล่อยให้คนหนุ่มสาวรุ่นนี้ อยู่กับคดีความ และการจำขัง ต่อเนื่องไป ทั้งที่เราส่งมอบสิ่งที่ดีกว่าให้พวกเขาได้

พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคก็เคยประกาศนโยบายปรองดอง สมานฉันท์ ถึงเวลาต้องทำก็ไม่ควรชักช้า เมื่อบรรดาคณะรัฐประหารทั้งหลาย นิรโทษกรรมตัวเอง และเข้าสู่เวทีการเมือง ก็ควรอย่างยิ่งที่จะนิรโทษกรรมให้คนหนุ่มสาว คืนอิสรภาพให้อนาคตของประเทศ

ขอบคุณข้อมูลและภาพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ