เมื่อวัน 19 ก.ย. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้มีนโยบายสำคัญในการเสริมสร้างหลักประกันทางสังคมให้แก่ผู้ประกันตน เพื่อลดภาระหนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และเติมทุน สร้างสุขให้แรงงาน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผู้ประกันตนมีภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะผู้ประกันตนชายที่ภรรยามีบุตร ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ ทำให้สถานะทางการเงินในครอบครัวได้รับผลกระทบนั้น สำนักงานประกันสังคมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ให้ผู้ประกันตนชายที่ภรรยาคลอดบุตรสามารถขอรับสิทธิตั้งแต่ค่าตรวจและฝากครรภ์ คลอดบุตรและสงเคราะห์บุตรได้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายโดยผู้ประกันตนหญิง หรือชาย ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าของครอบครัว ที่ต้องดูแลลูก โดยสำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และมาตรา 39 ในกรณีที่ภรรยาไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนชายสามารถใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคม แบ่งเป็น 3 กรณีตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการขอรับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม ดังนี้

1. กรณีค่าตรวจและฝากครรภ์ ผู้ประกันตนชายสามารถเบิกเท่าที่จ่ายจริงจำนวน 5 ครั้ง ไม่เกิน 1,500 บาท ดังนี้ กรณีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท และอายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ถึง 40 สัปดาห์ขึ้นไป จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนชายต้องแนบใบรับรองแพทย์ หรือสำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก ใบเสร็จรับเงินจากสถานพยาบาลที่ตรวจและฝากครรภ์ สำเนาทะเบียนสมรส สำหรับกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส ให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีใบทะเบียนสมรส ยื่นกับสำนักงานประกันสังคมเพื่อใช้สิทธิด้วย

2. ผู้ประกันตนชายมาตรา 33 มาตรา 39 สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตร จะต้องมีการส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวล 15 เดือน ก่อนเดือนที่ภรรยาคลอดบุตร จะได้รับเงินเหมาจ่ายค่าคลอด จำนวน 15,000 บาท เบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 3. ผู้ประกันตนชายที่จดทะเบียนสมรสกับภรรยาหรือจดทะเบียนรับรองบุตรว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย และมีการจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ผู้ประกันตนชายสามารถขอรับสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตรได้เดือนละ 800 บาท ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปีบริบูรณ์ อีกด้วย

นายบุญสงค์ กล่าวต่อว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีค่าตรวจและฝากครรภ์ คลอดบุตร และสงเคราะห์บุตร เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของผู้ประกันตน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคมที่มุ่งมั่น เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ประกันตนเป็นสำคัญ ผู้ประกันตนสามารถขอรับประโยชน์ทดแทนผ่านระบบ e-self service และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กรณีค่าตรวจและฝากครรภ์ คอดบุตร สงเคราะห์บุตร ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือโทร. 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง.