จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญหดหู่ใจ เนื่องจากนายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม อายุ 46 ปี น.ส.สุนัน หรือ จุ๋ม อายุ 40 ปี (ภรรยาคนที่ 5 ของนายส่องศักดิ์) และ น.ส.เจษฎา หรือ เจน อายุ 33 ปี (ภรรยาคนที่ 3 ของนายส่องศักดิ์) สามผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ ร่วมกันฆ่าลูกของตัวเองในหลายพื้นที่ อาทิ พื้นที่เขตสายไหม บางซื่อ และจังหวัดกำแพงเพชร และทำลายฝังกลบซ่อนเร้นศพ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคม

ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้คุมตัวนายส่องศักดิ์ ไปตรวจอาการทางจิตที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา หลังตรวจสอบประวัติพบว่าเคยรักษาอาการทางจิตมาก่อนหน้านี้ ท้ายสุดพบว่าอาการปกติ ไม่มีอาการทางจิตแต่อย่างใด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่อง ก่อนแจ้งข้อหาและคุมตัวนายส่องศักดิ์ และ น.ส.สุนัน ฝากขังศาลผัดแรก อีกทั้งไม่มีผู้มายื่นประกันตัวชั่วคราว ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าเรือนจำ ขณะที่ น.ส.เจษฎา อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวน สน.บางเขน นำตัวฝากขังศาลผัดแรกภายในวันนี้ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บชน. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน และ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อมพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน สน.บางเขน และ กก.สส.บก.น.2 เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีพ่อฆ่าลูกโบกปูน

ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชม. พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) หลังรับแจ้งจากนิติเวชว่ากระดูกที่ขุดพบ ในท้องที่ สน.สายไหม ไม่ใช่กระดูกมนุษย์ จึงต้องมาวางแนวทางการสืบสวนกันใหม่ โดยให้ฝ่ายสืบสวน ซักถาม น.ส.เจษฎา ว่าจำจุดทิ้งศพทั้ง 4 คน ได้หรือไม่ โดย 2 จุดแรกที่ไปทิ้งในที่ท้องที่ สน.บางซื่อ น.ส.เจษฎา สามารถชี้ได้ตรงจุด บันทึกของ สน.บางซื่อ ต่อมาจุดที่ 3 และ 4 ที่ได้มีการตรวจสอบพบกระดูก แต่หลังจากตรวจแล้วไม่ใช่กระดูกมนุษย์ จึงต้องให้ทางผู้ต้องหายืนยันจุดที่ทิ้งให้แน่นอน เนื่องจากสภาพทางกายภาพได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว ซึ่งจากเดิมที่ผู้ต้องหาให้การว่า จำได้ว่ามีศาลพระภูมิและเป็นป่ากก แต่เมื่อเทียบกับแผนที่ของ Google ก็พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นปั๊ม ปตท.

ขอส่งน้องขึ้นสวรรค์! ‘กัน จอมพลัง’ ทำพิธีเชิญ5ดวงวิญญาณเหยื่อพ่อแม่โหด

ในส่วนแรกคือ ต้องทำการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.สายไหม คือโรงพยาบาลภูมิพลและนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่ามีผู้พบศพนิรนามหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นจากการที่เราได้ตั้งฐานข้อมูล DNA ของนายส่องศักดิ์และ น.ส.เจษฎา เพื่อหา ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก พบว่ามีตรงกันเพียง 2 ศพ คือของพื้น สน.บางซื่อ จากนั้น จึงตรวจสอบไปยังฐานข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ก็ไม่พบฐานข้อมูลความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ของนายส่องศักดิ์และ น.ส.เจษฎา

เฉพาะฉะนั้น จึงต้องขอประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยังภาคประชาชนที่พบเห็นเหตุในช่วงเวลานั้น คือ ปี 2559 กับ 2561 ว่ามีประชาชนได้พบเจอและได้นำไปทิ้งในถังขยะบ้างหรือไม่ เนื่องจากการสืบส่วนทราบว่า รถขยะที่มาเก็บตรงพื้นที่นั้นจะต้องไปส่งคัดแยกที่ท่าแร้งพื้นที่ สน.คันนายาว กทม. และจึงคัดแยกขยะไปที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งสองจุดนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็ได้มีการลงพื้นที่แล้ว

พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุด้วยว่า วันจันทร์ที่ 25 ก.ย. นี้ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะเดินทางเข้าพบนายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม ในเรือนจำ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนคดีการเสียชีวิตของลูกชาย 2 คน ในท้องที่ สน.บางซื่อ เมื่อปี 2559 และปี 2561 ประกอบด้วยข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ทำลายศพ ช่วยเหลือผู้อื่นให้มิต้องรับโทษ และทำลายศพที่ต้องชันสูตรพลิกศพ

ส่วนพฤติการณ์ของนายส่องศักดิ์ เข้าข่ายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบหลักฐานทางคดี เพื่อแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น