เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่อาคารมติชน มีการจัดเสวนา การทำโพลเดลินิวส์ X มติชน : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? โดยมี นายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์, นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ อดีตคณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, ดร.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ และ ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเสวนาผ่านระบบซูม

สำหรับโพลเดลินิวส์ X มติชน ก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือจัดทำโพลวิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง 66 ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยครั้งนี้ถือเป็นการทำโพลครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้ง ซึ่งหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมีคำถามสะท้อนจากสังคมว่า รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร

ผศ.อัครพงษ์ กล่าวว่า หลังเลือกตั้งเราไม่ใช่ประชาธิปไตย 3 วินาที การมีโพลอย่างที่มติชน X เดลินิวส์ เป็นหนึ่งในกระบวนการภาคประชาชน เรามอบอำนาจให้รัฐบาล ส่วนรัฐบาลต้องนำอำนาจอธิปไตยของปวงชนไปทำหน้าที่แทนประชาชนทุกคน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หมวด 5 โดยหน้าที่ของรัฐต้องกำกับดูแลสิ่งที่เป็นอยู่ให้เป็นปกติสุข สร้างความสามัคคี เทิดทูนสถาบันตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ และอีกข้อคือการแก้ปัญหา ซึ่งนโยบายอีกหลายอย่าง เช่น นโยบายเพื่อสร้าง เพื่อเสริม เพื่อสืบต่อ และอย่าลืมว่ารัฐบาลที่เข้ามาในตอนนี้มีข้อครหาเยอะมาก และไม่ได้ถูกประชาชนเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ได้ตามกฎกติกาจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ผศ.อัครพงษ์ กล่าวอีกว่า ในแง่ของโพลเราทำเพื่อที่จะให้ประชาชนอย่าสิ้นหวังกับรัฐบาล แม้ไม่ใช่รัฐบาลอันดับหนึ่ง แต่ก็เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจ ประชาชนกำลังจับตาสิ่งที่รัฐบาลทำว่ามีอะไรบ้าง และการออกแบบโพลจะเป็นลักษณะกลับหัวกลับหาง เป็นโพลที่พลิกวงการ ที่นำผลแล้วมาดูคำตอบว่าบอกอะไรบ้าง ดังนั้นการทำนโยบายสาธารณะจึงเน้นไปที่ปัญหา ตอนนี้สังคมกำลังถกเถียงกันอยู่ 2 ข้อ คือ เอากินดีอยู่ดีมาก่อน หรือ โครงสร้างการเมืองกับอุดมการณ์มาก่อน เหมือนกับไข่กับไก่อะไรเกิดก่อนกัน หรือเหมือนกินข้าวแต่ไม่กินน้ำ เพราะฉะนั้นโพลนี้จะผนวกความต้องการทั้งหมดและสะท้อนเสียงอีกครั้งหนึ่ง

“โพลเดลินิวส์ X มติชน ที่สะท้อนปัญหาของประชาชน ไม่ใช่แค่ช่วยรัฐบาลแต่จะช่วยประชาชนด้วย เหมือนที่คุณปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เคยบอกไว้ว่า อย่าปล่อยให้กระบวนการประชาธิปไตยเงียบหาย และประชาชนต้องไม่ผิดหวังกับสิ่งที่เลือกมา ดังนั้นการสะท้อนปัญหา จะส่งผลให้ผู้นำเข้มแข็ง ส่วนประชาชนต้องไม่ละทิ้งรัฐบาลด้วยการส่งเสียงผ่านโพลในครั้งนี้”

ผศ.อัครพงษ์ ระบุว่า โพลครั้งนี้สะท้อนปัญหาว่ารัฐบาลเศรษฐาต้องแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง นโยบายก็เป็นสินค้าทางการเมือง ดังนั้นตัวเลือกจึงเน้นไปที่ปัญหา และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหา ทำการบ้าน และดูว่าเลือกเศรษฐาจะได้เป็นเศรษฐีจริงหรือไม่ ดังนั้นอยากให้รัฐบาลมองว่า โพลนี้จะเป็นส่วนเสริมรัฐบาล ขับดันรัฐบาลให้สำเร็จ คนที่ทำโพลนี้ถือว่า เป็นคนที่ตั้งใจจะทำ เพราะต้องใช้เวลา และผลที่ได้ออกมาจะตรงกับสิ่งที่ประชาชนคิด โพลนี้จะเป็นปล่องระบายความร้อน ที่จะระบายความรู้สึกและความหวังของประชาชน แต่ไม่ใช่การไปกระทุ้งรัฐบาล แต่เป็นพื้นที่รับฟังและส่งไปยังรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยฟื้นคืนศรัทธาที่มันหายไป และเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น อีกทั้งโพลนี้ ยังมีประโยชน์ให้พรรคการเมืองอื่น ๆ นำเป็นนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้อีกด้วย

กระบวนการทำโพล คือ ประชาพิจารณ์ของประเทศชาติ ว่าคนต้องการอะไร นับเป็นความสุดยอดของความเป็นประชาธิปไตย เป็นพื้นที่สาธารณะ เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลไม่ต้องลงทุนสำรวจ อีกทั้งรัฐบาลยังสามารถนำไปเคลมได้เลย ว่าแก้ปัญหาให้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายไหน ถ้าคุณเอฟของได้ ก็สามารถทำโพลนี้ได้ เปิดหน้าแรกให้เลือกระหว่างปัญหาโครงสร้างการเมืองกับปัญหาเศรษฐกิจ หน้า 2 มีการตอบคำถามอีกนิดหน่อย และหน้าสุดท้ายเป็นข้อมูลส่วนตัว เช่น อาชีพ อายุ ตนอยากให้ทุกคนมาถล่มทำโพลเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า

สำหรับกิจกรรมการทำ “โพลมติชน X เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” ครั้งนี้ เป็นการโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของสื่อเครือเดลินิวส์ และมติชน โดยจะเริ่มเปิดโหวตตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 66