เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทานได้ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาฉบับที่ 2 ว่า ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 1 ให้เฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่มและน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน มา ร่องมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมบริเวณภาคเหนือ ทำให้มีน้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้น และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงของวันที่ 3-6 ตุลาคม 2566 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทาง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้วิเคราะห์คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้น้ำล้นตลิ่ง บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำในแม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำเจ้าพระยา

ทางกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คาดการณ์ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,300-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขามีปริมาณประมาณ 50-150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง 1,350-1,750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ประมาณ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีความจำเป็นต้องควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,000-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1-1.50 เมตร โดยจะมีพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,527 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.75 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 11.20 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 5.14 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,059 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 944 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทางกรมชลประทานจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป.