เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “แล้วแต่ชอบ ไม่ชอบก็แล้วแต่” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของนายจันทร์แสง ปานทอง อายุ 33 ปี หนึ่งในแรงงานในในอิสราเอล ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ขออนุญาตตามหาพี่คนในรูปติดต่อไม่ได้ 3 วันแล้ว รบกวนคนในกลุ่มใครพบเห็นช่วยแจ้งมาทีครับ ล่าสุดพี่เขาเข้าหลบที่โดมโรงมัน Yesha Mivtahim”

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งทราบว่าบุคคลที่ปรากฏในภาพ  คือ นายมงคล ผจวบบุญ อายุ 38 ปี แรงานไทยในอิสราเอล ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไป โดยไม่รู้ชะตากรรม นานถึง 7 วันแล้ว  จึงได้พร้อมกับ นายณัฐฐนันท์ ยศจิตต์ ปลัดอำเภอขุนหาญ นายสมบูรณ์ ประจิม นายก อบต.ห้วยจันทร์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 2 บ้านห้วย ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ไปพบกับ น.ส.ทิพวัลย์ พลดง อายุ 34 ปี ภรรยาของนายมงคล พร้อมลูกสาวอีก 2 คน วัย 14 ปี และวัย 5 ขวบ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมสอบถามข้อมูลเพื่อจะได้ประสานให้ความช่วยเหลือในการติดตามหาบุคคลที่สูญหาย

ซึ่งในขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ น.ส.ทิพวัลย์ ได้พยายามโทรติดต่อกับ นายมงคล ผ่านช่องทางแชทเฟซบุ๊กอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรไปหา นายจันทร์แสง ปานทอง ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่เป็นคนบ้านเดียวกันและไปทำงานที่อิราเอล ในแคมป์เดียวกัน ได้มีการพูดคุยสนทนากับผู้สื่อข่าวว่า ในแคมป์นี้มีแรงงานไทยอยู่ทั้งหมด 15 คน เห็นนายมงคล ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. 2566 ก่อนเกิดเหตุ โดยขณะนั้น นายมงคล ได้เดินทางออกไปทำงานที่สวนก่อนคนงานคนอื่นๆ จากนั้นได้มีระเบิดตกลงกลางสวนมะเขือเทศ พร้อมกับกระสุนปืนที่ยิงมาจากทั่วสารทิศ คนงานทุกคนต่างหาที่หลบภัยเพื่อเอาชีวิตรอด กระทั่งช่วงสายนายจ้างได้มีการเช็คนับจำนวนคนงาน ปรากฏว่ามี นายมงคล หายไปจากกลุ่มเพียงคนเดียว และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยจนถึงวันนี้ ซึ่งคาดว่า นายมงคล อาจหนีไปหลบในไร่ส้ม หรือไม่ก็โรงมัน แต่คนงานที่ไปหลบในไร่มันก็ออกมากันจนหมดแล้ว

ต่อมานายจ้างได้พาอพยพออกมาจากพื้นที่สีแดง ซึ่งจากจุดปะทะประมาณกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย จึงได้นำรูปภาพโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเพื่อให้เพื่อนในเฟซที่ทำงานในอิสราเอล ได้ช่วยกันตามหาอีกแรงหนึ่งด้วย

ด้านน.ส.ทิพวัลย์ พลดง กล่าวว่า สามีตนไปทำงานที่อิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ทำงานมาแล้ว สัญญา 5 ปี 3 เดือน ทำงานมาแล้ว 3 ปี มีกำหนดกลับอีกประมาณ 2 ปี วันเกิดเหตุตนได้ทราบข่าวจากสื่อต่างๆว่ามีการสู้รบกันเกิดขึ้นในประเทศที่สามีตนไปทำงานอยู่ ตนรู้สึกตกใจ จึงได้รีบโทรผ่านแชทเฟซบุ๊กไปหา แต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด คล้ายกับทางอิสราเอล ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือไม่ก็อาจปิดเครื่องประมาณนั้น ทั้งที่แต่ก่อนหน้านี้สามารถติดต่อพูดคุกันได้ตลอด ซึ่งในตอนเช้าวันเกิดเหตุ สามีตนก็ได้โทรมาหาตนปกติ พอหลังมีข่าวเหตุปะทะระหว่างกลุ่มฮามาส กับอิสราเอล เกิดขึ้น ตนก็พยายามโทรติดต่อและส่งข้อความไปแบบรัวๆ นับครั้งไม่ถ้วน เพื่ออยากจะรู้ความเป็นอยู่ของสามี แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ และข้อความก็ไม่ขึ้นสถานะอ่านแล้วแม้แต่ครั้งเดียว ตนจึงรู้สึกใจคอไม่ดี กินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นสัปดาห์แล้ว เพราะรู้สึกเป็นห่วงเขา กระทั่งต้องไปพึ่งไสยศาสตร์ หมอดู ก็ทำนายว่า สามีตนยังมีชีวิตอยู่ ตนก็รู้สึกชื่นใจขึ้นมานิด แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ซึ่งเพื่อนๆในแคมป์คนงานพร้อมกับนายจ้างก็พากันออกตามหาอยู่ แต่ก็หาไม่เจอ

ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้ได้เจอเขา ขอให้เขาอยู่รอดปลอดภัย และกลับมาหาลูกเมียและครอบครัวที่บ้าน อยากฝากถึงรัฐบาล ให้ช่วยตามหา ว่าเขาอยู่ที่ไหน และหากสามีตนดูข่าวนี้อยู่อยากฝากบอกให้รีบติดต่อมาและให้เขารีบบินกลับมาบ้าน และจะไม่ให้กลับไปทำงานอีกแล้ว