จากสถานการณ์สงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ที่มีความรุนแรงมากขึ้นนั้น ได้ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวล แล้วย้ายเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตลาดทองคำมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำเริ่มขยับขึ้นมาทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง นับจากวันที่ 20 ก.ย. 66 ในช่วงระหว่างวัน ราคาทองคำปรับขึ้นมาทำสถิติใหม่ ที่ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 32,950 บาท และขายออกบาทละ 33,050 บาท จากปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

และเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่ากลับขึ้นมา ก็ทำให้ราคาทองคำค่อยๆ ปรับลดลง จนช่วงวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสขึ้น จึงทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั้งวันที่ 17 ต.ค. 66 ทองคำแท่งกลับขึ้นมารับซื้อบาทละ 32,950 บาท และขายออกบาทละ 33,050 บาท อีกครั้ง

ล่าสุด วันที่ 18 ต.ค. 66 ราคาทองคำทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาดปรับขึ้นมาจากวันก่อนหน้า 200 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 33,150 บาท ขายออกบาทละ 32,250 บาท และการเปลี่ยนแปลงระหว่างวันมีการปรับลงไป 50 บาท และปรับขึ้นมาอีก 100 บาท ทำให้ราคาทองคำขึ้นมาทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ ที่ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 33,200 บาท และขายออกบาทละ 33,300 บาท

สมาคมค้าทองคำ คาดการณ์ในเรื่องนี้ว่า หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อและมีการสู้รบจากฝ่ายอื่นเพิ่ม ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเรื่อยๆจนมีโอกาสที่ราคาทองคำแท่งขึ้นไปถึงบาทละ 34,000 บาท และทองรูปพรรณขึ้นไปที่บาทละ 34,500 บาท ซึ่งในช่วง 1-2 วันนี้จะต้องติดตาม