จากกรณีที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับประสานจากบริษัทจัดการศพของอิสราเอล ว่า สถาบันนิติเวชของอิสราเอล อนุญาตให้นำร่างของคนไทยที่เสียชีวิต 8 ราย ประกอบด้วย 1.นายพงษธร ขุนศรี 2.นายพิชิต นาจันทร์ 3.นายชัยรัตน์ สานุสันต์ 4.นายอานันต์ เพชรแก้ว 5.นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ 6.นายอนุชา โสภากุล 7.นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ และ 8.นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ ออกจากสถาบันนิติเวช ซึ่งสถานทูตจะส่งร่างพี่น้องแรงงานไทยชุดแรกดังกล่าว กลับประเทศไทย ด้วยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY083 ออกจาก อิสราเอลใน วันที่ 19 ต.ค. 66 เวลา 20.00 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 20 ต.ค. นั้น

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ต.ค. ที่ ลานจอดรถ หน้าอาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบรถตู้ของบริษัท สุริยา ฟิวเนอรัล จำกัด (สุริยาหีบศพคลองหลวง) และเอกชน มาจอดเตรียมรอเข้าไปรับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย โดยภายในรถ มีหีบโลงศพอยู่

ต่อมาเวลา 09.50 น. ที่ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่างของ 8 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสงครามในอิสราเอล ได้มาถึง โดยมีญาติพี่น้องบางส่วนของผู้เสียชีวิตมารอรับร่าง พร้อมกับนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายร่างแรงงานทั้งหมดกลับภูมิลำเนา

นายวิเชียร บุญช่วย หัวหน้าทีมลำเลียงศพ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีการประสานงานกับสถานทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ให้รับศพแรงงานไทยทั้ง 8 ร่าง ที่จะส่งกลับมาประเทศไทย ทางสุริยาหีบศพ จึงได้เป็นตัวแทนในการนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ร่าง โดยเตรียมหีบศพสำหรับเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตมาด้วย และจะส่งไปยังภูมิลำเนา เพื่อให้ญาตินำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีขั้นตอนการลำเลียงศพกระจายไปยังภูมิลำเนา 1 คัน ต่อ 1 ศพ แต่จะมีอีก 1 คัน เป็นพี่น้องกัน ไปส่งที่จังหวัดขอนแก่น 2 ศพ ครบทุกคัน และมีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายรอรับ เมื่อศพมาถึง ก็จะมีการกระจายไปในทันที ซึ่งโดยปกติแล้วที่ผ่านมา สุริยาหีบศพก็มีการช่วยเหลือเคสแบบนี้มาตลอด และครั้งนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ ที่จะส่งร่างทั้ง 8 ศพ โดยไม่มีญาติมารอรับ ขณะเดียวกัน ตนเองก็ขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต และตนก็รู้สึกภูมิใจในการทำหน้าที่ครั้งนี้ หลังจากที่รอคอยอย่างมีความหวัง

นางวงเดือน ล้ำเลิศ 42 ปี น้าของนายอานันต์ เพชรแก้ว เผยว่า ทางญาติเดินทางไปทำงานเกี่ยวกับการเกษตรหลายคน ซึ่งทุกคนก็ไม่เคยเจอกับอย่างเหตุการณ์นี้ก็เลยกล้าไป ก็ไปทำงานหาเงินตามปกติ ซึ่งอยู่บ้านเราก็ไม่ได้เงินเท่าบ้านเขา ส่วนน้อง ก็ไปทำอยู่กับการเกษตร อยู่ในฟาร์ม คือ สงครามมันเกิดประจำ แต่ครั้งนี้มันเป็นข่าว เราเริ่มติดต่อหาคนของเราตั้งแต่วันที่ 7 ซึ่งวันที่ 7 แม่เขาก็โทรฯ ติดต่อหาลูกสะใภ้ว่าติดต่อหาน้องได้ไหม ก็ยังบอกว่ายังคุยกันอยู่เลย ตอน 6 โมงเช้ายังติดต่อได้ แต่ตอนในช่วงสายๆ ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว แต่ก็หาทางติดต่อทุกทาง ก็ทำทุกอย่างที่ทำได้ หาทุกทางจนท้อว่าคนของเราน่าจะสูญหาย ก่อนที่ทางการจะส่งข่าวมาว่าเจอแล้ว เป็นศพแล้ว

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยว่า วันนี้ร่างแรงงานทั้ง 8 ราย มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง กว่าที่จะผ่านพิธีการของทางศุลกากร หลังจากนั้นเวลา 11.00 น. ก็จะมีพิธีกรรมทางศาสนา ที่จะมีการวางพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายร่างกลับสู่ภูมิลำเนา หลังจากที่ร่างแรงงานถึงภูมิลำเนาแล้ว จะให้ 5 เสือแรงงานลงพื้นที่ไปหาทางครอบครัวแรงงาน เพื่อชี้แจงสิทธิที่ควรได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ และของอิสราเอลด้วย โดยกรณีเป็นภรรยา จะได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 40,000 บาท จนกว่าจะแต่งงานใหม่ ส่วนลูกก็จะได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 6,000-12,000 บาท จนกว่าจะอายุครบ 18 ปี ส่วนเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต ก็น่าจะไม่เป็นปัญหา เนื่องจากได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตผ่านทางสถานทูตไทยอยู่แล้ว.