นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ นสพ.เดลินิวส์ และ เดลินิวส์ ออนไลน์ ถึงความคืบหน้าเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ยืนยันว่าเดินหน้าโครงการนี้ต่อแน่ แต่ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของเกมการเมือง ขณะที่เราเองอาจอธิบายไม่ดีพอในเรื่องของผลกระทบในเชิงบวกของโครงการนี้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะในทุกด้าน โดยในเร็วๆ นี้ จะหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. อีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องของผู้ที่มีสิทธิเข้าโครงการนี้ และทุกอย่างจะชัดเจนภายในอีก 1-2 สัปดาห์ โดยยืนยันว่าโครงการนี้ต้องทำ เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่ง ซึ่งรัฐบาลต้องเติมเงินเหล่านี้เข้าไป แต่ต้องเข้าไปอย่างถูกต้อง การจะนำไปซื้อสินค้าออนไลน์คงทำไม่ได้ เพราะเงินไม่ได้ลงสู่ท้องถิ่น หรือการเอาเงินไปใช้หนี้ ก็ทำไม่ได้เช่นกัน

“ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเกมการเมือง แต่ต้องยอมรับว่า ในอดีตที่ทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ก็ถูกโจมตีเยอะ ถูกคนจับตา แต่ทุกวันนี้ หลายประเทศในโลกต้องการมาเรียนรู้ ในโครงการนี้ ซึ่งรัฐบาลจะปรับให้สะดวกสบายมากขึ้น และให้รักษาได้ทั่วไทย”

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ครม. วันที่ 31 ต.ค. นี้ จะมีการพิจารณามาตรการต่าง ๆ หลายมาตรการ เพื่อดูแลแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนคนไทย ทั้งเรื่องของมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซิน มาตรการช่วยแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล โดยเป็นมาตรการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 0.01% เป็นเวลา 20 ปี เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะจัดเก็บภาษีกรณีที่พิสูจน์ทราบได้ว่า เอาซากสินค้าเกษตรมาเผา จนทำให้เกิดปัญหาเรื่องฝุ่นพีเอ็น 2.5 ที่กำลังมาในเดือนหน้า และทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่อง โดยเฉพาะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว หากเกิดปัญหาฝุ่นพิษมากก็อาจยกเลิกการเดินทางได้ ส่วนเงินที่จัดเก็บได้ ก็จะต้องมาทำในเรื่องซีเอสอาร์ต่อไป