เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่อาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ร่างของแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามในอิสราเอล ลอตที่ 3 ถึงประเทศไทยแล้วเมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. โดยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY083 จำนวน 11 ราย หลังจากเดินทางออกจาก กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวานนี้ ( 1 พ.ย.)  โดยในจำนวน 11 รายนี้ เป็นชายทั้งหมด ได้แก่ 1.นายจักรพงษ์ จันทรเสนา 2.นายศตวรรษ เพียเอีย 3.นายพิทักษ์ โทแหล่ง 4.นายวุฒิภัทร วิเศษดอนหวาย 5.นายจรูญ ชาติดำดี 6.นายสมควร พันธ์สะอาด 7.นายปริญญา แต้มกลาง 8.นายนันทวัฒน์ ปิ่นใจ 9.นายตุ๊ แซ่ลี 10.นายบัญชา ดัชถุยาวัตร 11.นายมีชัย ฤทธิผล

สำหรับการอพยพร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสงครามในอิสราเอลกลับประเทศไทย ขณะนี้รวมแล้วจำนวน 26 ราย จากจำนวนผู้เสียชีวิต 32 ราย โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบสิทธิแรงงานที่เสียชีวิตทั้ง 26 ราย พบว่า เคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 จำนวน 21 ราย ทายาทสิทธิได้รับบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงิน 469,847 บาท เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1 ราย จ่ายค่าทำศพ เงินสงเคราะห์กรณีตาย และบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงิน 233,913 บาท และเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 1 ราย จ่ายค่าทำศพ และบำเหน็จชราภาพ รวมเป็นเงิน 71,456.57 บาท รวมกองทุนประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 775,216.72 บาท 

ขณะที่ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีที่ออกมาบอกว่าจะจ่ายให้กับแรงงานไทยทุกคนที่กลับมาจากประเทศอิสราเอลคนละ 50,000 บาท โดยทางกระทรวงแรงงานจะประสานกับสำนักงบประมาณในการกำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางการรับเงิน และแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาก็จะได้รับทุกคน จะสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพหลังจากที่กลับมาอยู่ประเทศไทย และยังมีเงินที่รัฐบาลปล่อยให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ 1% ในวงเงินไม่เกิน 150,000 บาท ในระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 20 ปี ถือเป็นแรงจูงใจที่ให้แรงงานไทยได้นำเงินไปใช้หนี้หลังจากกลับมาอยู่ประเทศไทยแล้ว  โดยกระทรวงแรงงานจะทำเรื่องเสนอ ครม.ในครั้งหน้า โดยใช้งบประมาณกลาง คาดว่าในอาทิตย์หน้าน่าจะทราบผล สำหรับเงื่อนไขก็จะเป็นเงื่อนไขเดียวคือคนไทย หรือแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล 

ส่วนประเด็นดราม่าในโซเชียล ที่มีการพูดถึงความเหมาะสมในการจ่ายเงินเยียวยาให้กับแรงงานไทยในอิสราเอลที่มีความไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้ทำคุณูปการให้กับประเทศไทย หรืออาจจะเป็นการหาเสียงของรัฐบาลในครั้งต่อไปนั้น ตนมองว่าไม่อยากให้มองตรงนั้น เพราะเป็นแรงงานไทยที่เดินทางลี้ภัยกลับเข้าสู่ประเทศ เพื่อให้เขาได้ใช้ในการกลับมาตั้งหลักชีวิต มองว่ามีอีกหลายคนที่ใจอยากจะกลับประเทศ แต่กังวลในเรื่องของหนี้สิน หลังจากนี้ มองว่าชีวิตของคนไทยสำคัญที่สุด หากแรงงานไทยเสียชีวิตมากขึ้นแล้วใครจะตอบคำถามนี้ได้ ก็ต้องมีสังคมตั้งคำถามว่ารัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ตนมองว่าการให้เงินเพื่อแลกให้กับชีวิตคนไทยได้กลับมาอย่างปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 

ส่วนการพาตัวประกันกลับประเทศไทยนั้นก็จะต้องมีการหารือกับประเทศอิสราเอล  ไม่อยากให้มองในเรื่องของการจ้างในจำนวนเงินที่สูง แต่อยากให้มองในเรื่องของมาตรการความปลอดภัย หลุมหลบภัยหรือบังเกอร์หรือวิธีการของนายจ้างที่มีต่อลูกจ้างอย่างไร มีความปลอดภัยแค่ไหน  ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก ในการส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ต่างประเทศ

สำหรับประเด็นแรงงานไทยตกค้างอยู่ที่ประเทศอิสราเอลนั้น ต้องรอกระทรวงการต่างประเทศแถลงชี้แจง เพื่อวางแผนในการรับแรงงานกลับไทย อยากให้คำนึงว่าชีวิตคนไทยต้องปลอดภัย สำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางกลับไทยหากเที่ยวบินไม่พอ ก็สามารถที่จะเดินทางกลับเองแล้วนำค่าใช้จ่ายทั้งหมด มาเบิกค่าตั๋วเครื่องบินได้ที่สำนักงานแรงงานในจังหวัดของภูมิลำเนาได้