เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เเละ พ.ร.ป. ป.ป.ช.ฯ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบ

ก่อนเวลานัด นายวิญญัติ ชาติมนตรี และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นตัวแทนในการรับฟังคำพิพากษา โดยระบุถึงกระบวนการสู้คดีที่ผ่านมา ในฐานะทนายก็ทำให้ดีที่สุด มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์ 6 ปาก และฝ่ายจำเลย 4 ปาก โดยเริ่มสอบเมื่อต้นปี 2566

นายนรวิชญ์ กล่าวว่าวันนี้มาเป็นตัวแทนในการรับฟัง พร้อมเผยว่าก่อนมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งมาทำหน้าที่ตามที่ศาลได้นัดหมายไว้

เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทีมทนายความมีความกังวลกับคดีนี้หรือไม่ นายนรวิชญ์ ตอบว่าทนายความได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด มีความมั่นใจในการสู้คดี

เมื่อถึงเวลานัดศาลได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 29 พ.ย.66 เวลา 13.30 น.

โดยนายนรวิชญ์ กล่าวถึงเหตุในการเลื่อนว่า เนื่องจากวันนี้มีองค์คณะผู้พิพากษา 1 ท่านไม่มา โดยมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ ถึงไม่สามารถอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงนามในคำสั่งให้นายถวิลไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ครม.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาฯ สมช. ซึ่งนายถวิลได้ยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดและศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายและ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอัยการสูงสุดจึงได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกา และมีการออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากไม่เดินทางมาศาลโดยไม่ได้แจ้งเหตุผล.