เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 12 พ.ย. 66 พ.ต.ท.นวพล หาญขุนทด สว.(สอบสวน) สภ.เขาดิน จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 3 ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรพงศ์ ตราบดี ผกก.สภ.เขาดิน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านมีรอยเลือดหยด ตรวจสอบภายในห้องนอนพบศพ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี ชาว บ้านโป่ง ราชบุรี สภาพสวมกางเกงยีนขายาวไม่สวมเสื้อ นอนหงายจมกองเลือด ใบหน้ามีบาดแผลถูกทุบแตกไหลนอง ใกล้กันพบขวานและมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ด้วย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี อาศัยอยู่บ้านเกิดเหตุเบื้องต้นเล่าว่า แต่งงานกับนายสุรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี มีลูกด้วย 2 คน แต่นายสุรศักดิ์ เสพยาเสพติด ดื่มเหล้า เวลาเมาจะหาเรื่องทะเลาะตบตีทำร้ายเป็นประจำจนทนไม่ไหวหอบลูกมาอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านยายโดยเพิ่งมาอยู่ได้ 3 วัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายที่เพิ่งรู้จักกันมาสักพักหนึ่งแล้วได้โทรศัพท์มาหาบอกว่าจะมาดื่มเบียร์ที่บ้าน จึงให้มาโดยนั่งดื่มกัน 3 คน ตน น้าชาย และผู้ตาย กระทั่งดึกน้าชายขอตัวกลับไปก่อน ส่วนผู้ตายกำลังจะกลับ

น.ส.บี เล่าอีกว่า ระหว่างนั้นอยู่ๆ นายสุรศักดิ์ ขี่รถจยย.มาจอดที่หน้าบ้านและวิ่งเข้ามาจะทำร้ายตนจึงเข้าห้ามไว้และผู้ตายวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีลูกชายและลูกสาวของตนนอนอยู่ นายสุรศักดิ์ สามีตนก็ตามไปชกต่อยจนสลบ ตนวิ่งตามไปจะช่วย และพยายามบอกว่าไม่มีอะไรกัน ให้ฟังก่อน แต่ไม่ฟังเข้าใจผิดคิดว่าจะช่วยผู้ตายอีก ทำให้โมโหหนักขึ้นลากตนออกมาทำร้ายหน้าบ้านจนตนโดนมีดบาดมือและหน้าผากบวมปูด จากนั้นสามีวิ่งกลับเข้าไปในห้อง คาดว่าน่าจะใช้ขวานทุบหน้าผู้ตายจนเสียชีวิต ส่วนตนด้วยความกลัวจึงหนีออกมาหลบด้านนอก กระทั่งได้ยินเสียงรถจยย.ขี่ออกไป จึงออกมาจากที่ซ่อนก็พบว่าสามีพาลูกสองคนหนีไปด้วย จึงเข้าไปในห้องพบศพดังกล่าว

ขณะที่ญาติๆ ของผู้ตายที่รู้ข่าวต่างก็พากันมาที่บ้านที่เกิดหตุ เห็นศพร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ก่อนเปิดเผยว่า ขณะอยู่กันที่บ้านได้ข่าวว่าผู้ตายถูกแทงบาดเจ็บ ลูกๆ จึงรีบโทรศัพท์หาผู้ตาย มีคนรับสายคิดว่าเป็นผู้ตาย จึงรีบถามไปว่า พ่ออยู่ที่ไหน แต่ปลายสายกลับไม่ใช่ผู้ตาย เป็นเสียงผู้ชายตอบมาว่า “อยู่ในใจเสมอ” และถามว่าพ่อถูกแทงหรือ ปลายสายก็ตอบกลับมาน้ำเสียงแบบเยาะเย้ยว่า “เหรอๆๆๆ” แล้วบอกว่า “ถ้าอยากได้โทรศัพท์คืนให้ตามไปเอาเอง” คาดว่าอาจเป็นคนร้ายที่ทำร้ายผู้ตายขโมยโทรศัพท์มาด้วย จึงรีบมาที่เกิดเหตุพบว่าพ่อเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

ด้านน้าสาว ของน.ส.บี เล่าว่า ขณะเกิดกำลังนอนหลับอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังว่าจะเอาให้ตาย จึงได้แอบเปิดหน้าต่างดูเห็นว่าหลานเขยมาที่บ้าน จึงรีบปิดประตูหลบอยู่ในห้องเพราะหวาดกลัวมาก เนื่องจากที่ผ่านมาหลานเขยก็โมโหร้าย ทำร้ายหลานสาวเป็นประจำโดยไม่สนใจใคร จนต้องหอบลูกหนีมาขออาศัยอยู่ได้ พอเสียงเงียบสงบออกมาพบว่าเกิดเหตุสลดแล้วดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายพร้อมประสานบ้านญาติคนร้าย ให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวและกระจายกำลังออกตามหาเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กทั้ง 2 คน เนื่องจากตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่าเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้วถึง 2 ครั้ง