จากกรณีเจ้าหน้าที่การเงินของวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่าวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีวัดแห่งหนึ่งได้มีการทอดกฐินสามัคคี ได้ยอดเงินทำบุญกว่า 7 แสนบาท แต่เจ้าอาวาสซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลด้วย ไม่ได้นำเงินไปเข้าบัญชีของวัด หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสดังกล่าวได้ ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านผู้เสียหายกว่า 30 ราย ที่ให้เจ้าอาวาสยืมเงินส่วนตัวเพื่อทะนุบำรุงวัด รวมแล้วประมาณ 4 ล้านบาท เริ่มทยอยออกมาให้รายละเอียด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายจิตรติ รามเนตร รักษาการนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งชาวบ้านที่ให้เจ้าอาวาสยืมเงินไปพัฒนาวัด ไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ย. และมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับพระเลขาฯ ดำเนินการรับแจ้งรวบรวมข้อมูลความเสียหาย โดยทำบัญชีระบุรายชื่อ ที่อยู่ และจำนวนเงินที่ได้ให้กู้ยืม พร้อมพยานหลักฐานการกู้ยืม (ถ้ามี) จากนั้นที่ประชุมฯ ได้พิจารณาด้วยมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยความเห็นชอบร่วมกัน โดยได้กำหนดให้นัดหมายประชุมติดตามกันอีกครั้งที่วัด ในวันที่ 30 พ.ย.66 เวลา 13.30 น. อ ในระหว่างนี้เราอาจจะมีข้อมูลข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยวันที่ 30 พ.ย. จะเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในเรื่องของระเบียบกฎหมาย เช่น อัยการ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ มาคุยให้คำแนะนำชาวบ้านในเรื่องของการที่ชาวบ้านให้เจ้าอาวาสยืมเงิน ถ้าจะดำเนินคดีจะต้องทำอย่างไร เตรียมหลักฐานอะไรบ้าง

ฉาวโฉ่! แจ้งจับ ‘เจ้าคณะตำบล’ วัดดังสุพรรณบุรี หอบเงินกฐิน-เงินทะนุบำรุงวัดกว่า 4 ล้านหนี

ส่วนพระลูกวัด กล่าวว่า ส่วนตัวก็สนิทกับเจ้าอาวาสเพราะเป็นเลขา ทำงานสนองงานคณะสงฆ์ ส่วนเงินกฐินนั้นได้ประมาณ 7 แสนบาทจริง แต่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าช่างที่จ้างมาสร้างพัฒนาทะนุบำรุงวัด แล้วน่าจะเหลือประมาณ 2 แสนบาท ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบเจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนา ชาวบ้านรักใคร่

นางกานดา สุนทรพิพัฒน์ ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสวัดยืมเงินตนไป 30,000 บาท จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัด บอกว่าหลังกฐินจะให้ พอหลังประมาณวันที่ 14 พ.ย. ตนได้ทวงถามและได้คืนมา 6,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่อ่านไลน์ ที่ตนให้ยืมเพราะเห็นว่าท่านเป็นพระที่พัฒนาวัด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียอะไร ชาวบ้านรักใคร่ศรัทธา ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

ส่วนเรื่องคดี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างพนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งคณะกรรมการวัด และชาวบ้านที่เจ้าอาวาสยืมเงินประมาณ 30 ราย และชุดสืบสวนติดตามเจ้าอาวาสเพื่อมาให้ปากคำข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายคดีอาญาหรือไม่ เมื่อสอบปากคำพยานครบทุกปาก และถ้าเข้าข่ายก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน ส่วนใหญ่ยังศรัทธาเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว เพราะพัฒนาวัดจนเจริญ ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย ช่วยเหลือสังคมทุกด้าน นึกไม่ถึงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เพราะเจ้าอาวาสไม่เคยเล่าให้ใครฟังถึงปัญหาส่วนตัวแต่อย่างใด และในตอนนี้เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ บขส.สุพรรณบุรี พบภาพภาพเจ้าอาวาสวัดดังคนดังกล่าว ได้เดินทางมายัง บขส.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลา 13.30 น. ก่อนชาวบ้านผู้เสียหายจะติดต่อไม่ได้จนถึงปัจจุบัน.