นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การขยายสิทธิให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองชุดบ้านจัดสรรได้เพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดเงินลงทุนจากชาวต่างชาติถือเป็นเรื่องดี แต่รัฐบาลต้องวางกฎเกณฑ์ให้เหมาะสม โดยเฉพาะในส่วนของราคา ควรกำหนดให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อได้เฉพาะบ้าน หรือคอนโดฯ​ ระดับหรูที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อไม่ให้มาแย่งซื้อที่อยู่อาศัยจากคนชั้นกลาง หรือคนทำงาน ซึ่งนิยมซื้อบ้านราคาปานกลาง 3-8 ล้านบาท เพราะไม่เช่นนั้นถ้าต่างชาติเข้ามาซื้อได้ด้วย อาจทำให้ที่อยู่อาศัยราคาแพงขึ้นจนคนไทยเดือดร้อน 

นอกจากนี้ รัฐบาลควรกำหนดโซนให้ต่างชาติเข้ามาถือครองบางพื้นที่ เฉพาะในเขตเศรษฐกิจสำคัญ เช่น  กรุงเทพฯ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือภูเก็ต ไม่ควรเปิดให้เข้ามาถือครองได้อิสระ ป้องกันไม่ให้มีการเข้ามากว้านซื้อที่ดินหรือที่อยู่อาศัยมากเกินไป ส่วนการเพิ่มระยะเวลาถือครองหากรัฐบาลต้องการขยายกรรมสิทธิ์เกิน 30 ปี  ควรแบ่งเป็นช่วง ๆ ไม่เกิน 30 ปี แต่สามารถต่ออายุได้อีกครั้งละ 30 ปี อีก 2 ครั้ง รวมเป็น 90 ปี ไม่ควรจะขยายกรรมสิทธิ์รอบเดียว 90 ปี หรือ 99 ปี รวมถึงการถือครองคอนโดฯ แม้จะขยายสัดส่วนต่างชาติเข้าอยู่ได้เกิน 49% แต่ก็ควรจำกัดสิทธิการโหวตไม่เกินกึ่งหนึ่งเหมือนเดิม เพื่อให้คนไทยยังเป็นเสียงส่วนใหญ่อยู่  ซึ่งในรายละเอียดเหล่านี้ มีความสำคัญที่รัฐบาลต้องดูให้รอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิของคนไทย