สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่า ผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในแคนาดา ซึ่งมีการลงคะแนนเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พรรคเสรีนิยมภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ยังคงได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุดในสภาสามัญ แต่จำนวนที่นั่งลดลงพอสมควร เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ซึ่งพรรคเสรีนิยมได้รับการเลือกตั้งเข้ามากที่สุด 155 ที่นั่ง จากทั้งหมด 338 ที่นั่ง
แผ่นป้ายบอกทางเข้าสู่คูหาเลือกตั้ง ที่เมืองคิงสตัน ในรัฐออนแทรีโอ
ทั้งนี้ เอ็กซิตโพลคาดการณ์จำนวนที่นั่งของพรรคเสรีนิยม ไว้ที่ระหว่าง 104-146 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคอนุรักษนิยมของนายอีริน โอทูล ซึ่งเอ็กซิตโพลคาดการณ์ไว้ที่ระหว่าง 110-120 ที่นั่ง แม้ชัยชนะครั้งนี้ช่วยให้ทรูโด วัย 49 ปี ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน แต่การที่พรรคเสรีนิยมยังไม่สามารถครองเสียงข้างมาได้อย่างเด็ดขาด คือต้องไม่ต่ำกว่า 170 ที่นั่ง หมายความว่า ผู้นำแคนาดายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก ในการผ่านกฎหมายและขอความเห็นชอบต่อนโยบาย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ที่กรุงออตตาวา
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายค้าน ว่าเกิดขึ้น "เร็วเกินความจำเป็น" เนื่องจากเป็นการลงคะแนนล่วงหน้านานถึง 2 ปี วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเรื่องนี้ จึงน่าจะเป็น "การวัดความนิยมส่วนตัว" ของทรูโดมากกว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลอัดฉีดงบประมาณอย่างหนักเพื่อรักษาเถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจ และเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน จนแคนาดาติดอันดับกลุ่มประเทศที่ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนครบแล้วมากที่สุด เมื่อคำนวณต่อหัวประชากร.

เครดิตภาพ : REUTERS