เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน หมู่ที่ 15 ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ว่ามีพระครูระดับเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่ง ได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวสติไม่เต็มร้อยวัย 27 ปี โดยพระเจ้าคณะตำบลรูปนี้มีพฤติกรรมที่มั่วสุมกับสีกาคนนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2565

โดยเรื่องเมื่อปีที่แล้ว (2565) ขณะที่ป้าของหญิงสาวดังกล่าวกำลังเดินทางไปสถานีอนามัย ได้เดินผ่านห้องน้ำวัด และได้สังเกตเห็นว่า หลวงพ่อเอาผู้หญิงเข้าไปในห้องน้ำ และสงสัยว่าหลวงพ่อเข้าไปทำอะไร จึงไปยืนรอหน้าห้องน้ำ กระทั่งนานผิดสังเกตนับชั่วโมง จึงได้หยิบมือถือมาและได้ถ่ายคลิปเก็บไว้ ก่อนจะเรียกให้เปิดประตู พอเปิดประตูออกมาพบว่าเป็นหลานสาว พร้อมกับเหงื่อแตกชุ่มทั้งตัว จึงทราบต่อมาว่าพระครูได้มีเพศสัมพันธ์กับหลานมาแล้วหลายครั้ง

ต่อมาป้าของผู้เสียหายได้ทำบันทึกเป็นหลักฐานไว้ว่า ไม่ได้มีการชักชวนหลานสาวไปค้าประเวณีให้กับพระครูรูปดังกล่าว เพราะจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทางพระครูได้ชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวนเงิน 150,000 บาท และเกรงว่าจะเกิดเรื่องชักชวนการค้าประเวณีมาในภายหลัง

โดยนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ป้าของหญิงสาวดังกล่าว เล่าว่า วันที่เกิดเหตุเมื่อปีที่ผ่านมา ตนมีอาการปวดหัวและกำลังจะเดินไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ขณะกำลังผ่านห้องน้ำวัดพอดีและมียายคนหนึ่งได้ตะโกนบอกว่าหลานสาวอยู่ในห้องน้ำกับพระครูเพียง 2 ต่อ 2 ว่าพระครูพาสีกาเข้าไปในห้องน้ำ ตนเองจึงไปเคาะประตูเรียกและนั่งรออยู่หน้าห้องน้ำนานนับหลายนาที จนกระทั่งเปิดประตูออกมาถึงกับผงะ พบว่าเป็นหลานสาวของตนที่สติไม่สมประกอบ จึงได้ถามพระครูไปว่าพาหลานสาวตนมาทำอะไรในห้องน้ำ พระครูได้ตอบมาว่า “รำคาญเสียงหมามันเห่าดังในวัด เลยเข้ามาหลบในห้องน้ำ”

นางเอ เล่าต่อว่า ก่อนจะพูดคุยกับพระครูว่ามีอะไรกับหลานสาวหรือไม่ พระครูกลับปฏิเสธว่าไม่ได้มีอะไรกัน จนกระทั่งพูดว่าถ้ายังงั้นจะพาไปตรวจที่โรงพยาบาล ด้านพระครูจึงขอเจรจาพูดคุยต่อรองและขอชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท เพื่อปิดเรื่องและจะไม่ยุ่งต่อกันอีกเพื่อปิดความสัมพันธ์ แต่ทางพระครูก็ยังมีการนัดให้หลานสาวให้ไปหาอยู่เรื่อย ตนรู้สึกไม่สบายใจและอยากให้ทางพระครูสึกออกจากการเป็นพระ ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจเพราะที่ผ่านมาเคารพนับถือพระครูมาโดยตลอดไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่ร้องเรียนกับสื่อมวลชน อายุ 53 ปี เล่าว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระนักปฏิบัติธรรม และตนรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ อยากให้หลวงพ่อสึกออกจากการเป็นพระ เพราะพฤติกรรมที่ท่านทำนั้นไม่สมควรที่จะห่มผ้าเหลืองอีกต่อไป.