วันที่ 12 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน มีวาระพิจารณาหลายเรื่อง โดยมีเรื่องเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้ กระทรวงพลังงาน เสนอ ลดค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค. – เม.ย. 67 ไม่เกิน 4.10 บาทต่อหน่วย

กระทรวงการคลัง เสนอ มาตรการแก้ปัญหาหนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี รหัส 21 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19

นอกจากนี้เรื่องเพื่อทราบ กระทรวงการคลัง เสนอ รายงานผลการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เสนอ นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ครม.วันนี้จะพิจารณาลดค่าไฟฟ้างวดใหม่เดือนม.ค.-เม.ย.67 ที่เสนอไปเป็นไม่เกิน 4.10 บาทต่อหน่วย ลดลงจากที่ต้องเรียกเก็บที่ 4.68 บาทต่อหน่วย แต่ในส่วนลดค่าไฟให้กลุ่มคนเปราะบางไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วยนั้น คาดว่าจะยังไม่มีการเสนอให้ครม.พิจารณาในวันนี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ครม.วันนี้ จะพิจารณาแก้หนี้ตามที่กระทรวงการคลังจะเสนอ เป็นมาตรการแก้ปัญหาหนี้ในระบบเพิ่มเติม 2 กลุ่ม ได้แก่ การแก้หนี้ให้ลูกหนี้กลุ่มเอสเอ็มอี รหัส 21 (เป็นหนี้เสียช่วงโควิด) ในส่วนของแบงก์รัฐ มีจำนวน 5-6 หมื่นราย คิดเป็น 99.5% ของลูกหนี้เอสเอ็มอี รหัส 21 ทั้งหมด โดยจะมีการพักชำระหนี้วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย เป็นเวลา 1 ปี และลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ

อีกส่วนเป็นการช่วยลูกหนี้รายย่อยที่เคยกู้สินเชื่อฉุกเฉินสู้ภัยโควิด 10,000 บาท จากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่กลายเป็นหนี้เสียให้กลับมาเป็นหนี้ปกติ และไม่ติดเครดิตบูโร โดยขณะนี้มีลูกหนี้กลุ่มนี้เป็นหนี้เสียแล้วกว่า 1 ล้านคน จะมีการยกหนี้ที่ค้างจ่ายให้กับคนที่เป็นหนี้เสียทั้งหมด ซึ่งกลไกที่รัฐบาลช่วยนั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อรัฐ