“ผมเคยคิดทุกวิธีที่จะตาย จิตใจมันไม่ไหว ทำใจไม่ได้”

“รองเบียร์” พ.ต.ท.นำพล ทองภูสวรรค์ รอง ผกก.1 บก.สอท.4 เล่าถึงช่วงชีวิตพลิกผัน เกิดอุบัติเหตุใหญ่ ในวัยเพียง 27 ปี ก่อนที่เขาจะใช้พลังใจ กลับมาสู้กันใหม่ โดยมี “กีฬา” เป็นหนึ่งในสิ่งที่เยียวยา สู่เส้นทางของนักกีฬาสนุกเกอร์ กระทั่งติดทีมชาติไทย

ล่าสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สามารถควงคิว คว้าเหรียญทองแดง จากการแข่งขันกีฬาคนพิการทางด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ชิงแชมป์โลก World Abilitysport Games ที่ จ.นครราชสีมา ในสนุกเกอร์ ประเภท คลาส 1 นั่งวีลแชร์ (บาดเจ็บรุนแรง)

เป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของเจ้าตัว ที่นอกจากจะดำเนินชีวิตปกติ ทำงานในหน้าที่ข้าราชการตำรวจเต็มความสามารถ แล้วยังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ

“ภูมิใจมากครับ แข่งในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย สร้างผลงานได้เหรียญทองแดง” พ.ต.ท.นำพล กล่าว

“เสียดายอยู่บ้าง เรายังขาดประสบการณ์ อย่างคนที่ได้เหรียญทอง ตอนรอบแรกผมก็เคยชนะมาแล้ว ถ้าเจออีกทีก็ไม่แน่ แต่มาแข่งครั้งนี้ เราได้อะไรเยอะ อย่างเช่นการใช้รถเข็น ไม่ได้ใช้รถมอเตอร์ไฟฟ้า พอมาเล่นบนพื้นปูพรม มันเหนื่อยตอนเข็นรถ แขนก็อ่อนล้า ตรงนี้เราได้รู้แล้วว่ามีปัญหาตรงไหน”

พ.ต.ท.นำพล ไม่สามารถเดินเหินได้แบบคนปกติ ทุกวันนี้ต้องนั่งรถเข็น อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุหนักในวัยหนุ่มแน่นอายุเพียง 27 ปี ที่ถือว่าเป็นวัยที่ไฟแรงอย่างสุดๆ

เหตุตอนนั้น พ.ต.ท.นำพล ยังเป็นยศ ร้อยตำรวจโท เป็นรองสารวัตรสืบสวน สน.บางมด เหตุเกิดหลังจากตั้งด่านเสร็จ จะขับรถกลับ ไปเจอเส้นทางมืดๆ มีรถจอดคอสะพาน เกิดชนเข้าไปอย่างจัง

อุบัติเหตุ ทำให้ พ.ต.ท.นำพล เจ็บหนัก ตั้งแต่คอลงมาไม่มีความรู้สึกใดๆ เลย แน่นอนเมื่อรู้ตัวว่าชีวิตกำลังเกิดอะไรขึ้น ในวัย 27 ปี ที่กำลังเติบโต มีฝันที่จะเดินตาม เหมือนพังทลาย ยากที่ใครจะทำใจได้

“ตอนนั้น ตั้งแต่คอลงมาเราไม่รู้สึกเลย จิตใจมันแย่มาก ไม่ไหวจริงๆ เราก็เริ่มคิดมาก ชีวิตจะเป็นอย่างไร จะอยู่ได้อย่างไร เป็นภาระคนอื่น มานอนซม”

“ในแวบหนึ่งของชีวิต ผมคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว จะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นคิดทุกวิธีที่จะตาย ทุกวิธีจริงๆ”

“แต่ด้วยร่างกายของผม มันไม่สามารถขยับได้ ขยับได้แค่คอ คิดดูจะตายยังทำไม่ได้ มันก็เริ่มมีเวลาให้คิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง”

“กระทั่งมาคิดว่า การตายเนี่ย มันยากจังนะ มันยากกว่าอยู่ เราต้องสู้สิ ลองสู้กันสักตั้ง ตัดสินใจว่า ไม่ตายแล้ว อยู่สู้ชีวิตดีกว่า”

นายตำรวจหนุ่ม ประกาศสงครามกับโชคชะตา สู้ยิบตา สู้ทุกขั้นตอนเริ่มจากปรับมายด์เซต ปักธง พุ่งเป้าสู่การดำเนินชีวิตกันอย่างไร แล้วก็เริ่มทำกายภาพ ร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟู

“ปรับมายด์เซตได้ เราก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรอีกหลายอย่างที่จะอำนวยความสะดวกคนแบบเราได้ ร่างกายเริ่มดีขึ้น ฟื้นตัวกลับมา เริ่มหัดขับรถเอง ไปทำงานได้ คือค่อยๆ ทำในทีละอย่าง ทีละสเต็ป”

“สำคัญเลย คือสภาพแวดล้อม ไม่ว่าสถานที่ บุคลากรให้การยอมรับ ทำให้เราพัฒนา ทั้งด้านจิตใจ และร่างกายฟื้นฟูเร็ว”

ร่างกายของ พ.ต.ท.นำพล ทองภูสวรรค์ ค่อยๆ กลับมา แต่กว่าถึงตรงนี้ เหมือนสร้างชีวิตใหม่ เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่การหัดหายใจใหม่ เพราะการนอนนานๆ ทำให้ความดันต่ำ ลุกขึ้นนั่งแล้วจะเป็นลม

รวมๆ เวลารักษา เฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ นอนจมอยู่กับความเศร้า 1 เดือน ก่อนรักษาตัวอีก 1 ปี จนมาถึงปัจจุบันที่อวัยวะตั้งแต่คอลงไป มีความรู้สึก เพียงแต่ไม่เต็ม 100 อันเนื่องจากกระดูกคอข้อที่ 5-6 แตก กดทับเส้นประสาท ใช้โลหะประกบคอ 3 ชิ้น

พอเริ่มนิ่งแล้ว มองถึงการเล่นกีฬา เพื่อเป็นการออกกำลังกาย และสร้างสภาพจิตใจไปด้วย ตอนแรกยิงธนู เข้าทำเนียบทีมชาติเหมือนกัน แต่มีปัญหาเส้นประสาทควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่มีเหงื่อ ถ้าอากาศร้อนๆ แล้วหายใจไม่ออก ดังนั้นจึงต้องเป็นกีฬาในห้องแอร์ เลยเลือก สนุกเกอร์

“เป็นกีฬาที่ใช้แขน เข็นรถรอบโต๊ะได้ เหมือนกายภาพไปในตัว”

“แล้วกีฬามันช่วยให้รีแลกซ์ด้วย สนุกเกอร์ใช้สมาธิ เหมือนหลอกให้เราต้องเข็นรถ แล้วได้พบปะเพื่อนฝูง จิตใจมันก็ดีขึ้น”

จากที่เล่นสนุกเกอร์เพื่อสุขภาพกายใจ พอได้ทราบว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพกีฬาคนพิการทางด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ชิงแชมป์โลก จึงมาสมัครเป็นทีมชาติไทย และคัดเลือกผ่าน จึงมีโอกาสลงแข่งในนามทีมชาติครั้งแรก ซึ่งผู้บังคับบัญชาสนับสนุน เพราะเป็นการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย ก่อนจะทำผลงานคว้าเหรียญทองแดง

ชีวิตทุกวันนี้ แม้ไม่เหมือนคนอื่น แต่ รองเบียร์ ทำหน้าที่ทำประโยชน์ให้สังคมได้เหมือนคนทั่วไป ในอาชีพตำรวจ เป็นรองผู้กำกับ ดูแลด้านไซเบอร์ ปัญหาโจรออนไลน์

ขณะที่ในทางกีฬา รองเบียร์ ก็พร้อมเดินหน้าลุยต่อ โดยเฉพาะการรับใช้ทีมชาติไทย ปีหน้ายังมีคิวแข่งที่ประเทศจีน

“กีฬาคือส่วนสำคัญ ที่ช่วยเยียวยาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผม แม้ทุกวันนี้ผมจะไม่ปกติเต็ม 100 แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว”

ด้วยประสบการณ์ตรง เขายังมองว่า “กีฬา” คือปัจจัยสำคัญ ที่ควรนำมาช่วยเหลือคนพิการ

“กีฬา เป็นตัวช่วยในการพัฒนาศักยภาพคนพิการ ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ตัวเองทำอะไรได้ คล้ายๆ คนปกติ เป็นผู้มีคุณค่า”

“อย่างผมยังดีที่มีอาชีพ แต่นักกีฬาคนพิการส่วนใหญ่ไม่มีงานประจำทำ เพราะเวลาจะแข่งก็ต้องเก็บตัว ถ้าเป็นไปได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง กกท.(การกีฬาแห่งประเทศไทย) สนับสนุนให้มีอาชีพ อยากให้มีเกณฑ์ที่จะบรรจุพวกเขาเข้าทำงานประจำ เพื่อเลี้ยงชีวิตในบั้นปลาย”

“ชีวิตผมกลับมาได้ เพราะกีฬาเป็นจุดเชื่อมโยง อยากให้นักกีฬาคนพิการคนอื่น ทำหน้าที่เพื่อทีมชาติไทยแล้ว ได้มีโอกาสทางหน้าที่การงานเช่นกัน” รองเบียร์ทิ้งท้าย

จากเส้นทางที่เกือบจะสูญสิ้น วันนี้ “รองเบียร์” พ.ต.ท.นำพล ทองภูสวรรค์ กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ด้วยพลังใจ ใช้ “กีฬา ” ต่อยอดเสริมแรงกาย

โชคชะตา ไม่ได้ใจดีกับทุกคน บางคนเหมือนโดนเคราะห์กรรมถล่มถมทับ แต่ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ ขอให้หัวจิตหัวใจยังไหว และที่สำคัญคือโอกาสจากคนรอบข้าง ที่จะทำให้ฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้ แม้จะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม.

* ** วุฒินล บุญวานิช ***