เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังแชร์ต่อพูดถึงกันเป็นอย่างมากอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Khowpoad Jiradej ได้โพสต์เล่าเรื่องราวการถูกรถบรรทุกน้ำมันแหกโค้งลงเขาเข้ามาชน แต่ปรากฎว่าในรถของเขากลับไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก และไม่มีผู้เสียชีวิต

โดยเจ้าของโพสต์ระบุว่า “Review Volvo (รุ่นหนึ่ง)” เมื่อวันที่ 23 ธันวา เรากับปองขับรถลงมาเขาหลัก เอา Volvo ลงมาเพราะอยากลองว่าขับรถไฟฟ้าลงใต้จะเป็นยังไง ชาร์จกี่ stop ค่าไฟเท่าไหร่ปกติจะมาทางระนองผ่านคุระบุรีแล้วเข้าตะกั่วป่าเพราะรถมันน้อย แต่รอบนี้ต้องไปทางสุราษเพราะต้องคอยชาร์จไฟ เพราะระหว่างเข้าพังงาจะไม่ค่อยมีปั๊มที่ชาร์จไฟได้แล้วกลัวไฟไม่พอ

พอมาถึงเขาสกช่วงลงเขาโค้งสุดท้ายที่กะปงก่อนจะเข้าตะกั่วป่า ก็ขับตามๆกันมา 4 คัน โดยที่เราเป็นคันที่ 4 เนื่องจากโค้งมันเยอะแล้วมันมีแต่เส้นทึบก็เลยขับตามๆกันมาด้วยความเร็วประมาณ 30-40 km/h ตอนประมาณ 6 โมงนิดๆ ก็มีสิบล้อบรรทุกน้ำมันประมาณ 2 หมื่นลิตร (ถามพนง.ทีหลัง)

เข้ามาชนด้านข้างด้วยความเร็ว 90 km/h (เห็นความเร็วเพราะไปดูคลิปในรถของคนขับสิบล้อ) เข้าฝั่งคนขับเต็มๆ แล้วสอย Swift คันข้างหน้าตกเขาไปด้วยที่ความสูงประมาณ 20-30 เมตร แล้วก็ทำให้น้ำมันรั่วหลายพันลิตร
หลังจากนั้นประมาณไม่เกิน 5 วิ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่รถเป็นคนจากศูนย์ Volvo โทรเข้ามาว่าประสบอุบัติเหตุใช่มั้ยต้องการให้ช่วยเหลืออะไรบ้าง มีผู้ได้รับบาดเจ็บมั้ย ให้ประสานงานเรียกรถพยาบาลให้รึเปล่า ซึ่งเค้ารู้ว่าเจ้าของรถคือใคร รถมันสามารถส่งสัญญาณ sos ไปศูนย์ได้เลย สายแรกที่ได้คุยหลังชนไม่ใช่ใครเลยแต่เป็น Volvo แล้วรู้ด้วยว่าเจ้าของรถคือใครถามชื่อว่าคุณปองปรียาใช่มั้ย อันนี้ปองประทับใจมาก อันนี้ขายของที่ 1

ขายของที่ 2 เสา ABC และก็โครงรถแข็งแรงมากไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงทั้งคู่ แต่จะเจ็บจาก Airbag ทำงาน ก็มีช้ำและซ้น ตรงข้อมือขวาและแขนกับลำตัวฝั่งขวา ซึ่งไป X-ray แล้วไม่มีอะไรแตกหักทั้งคู่ ถามว่าพระอะไรคิดว่าพระไม่น่าช่วยน่าจะช็อคอยู่ด้วยกัน

ขายของที่ 3 คุณหน่อยที่เป็นเซลล์วอลโว่ ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ทุกอย่างในการติดต่อประสานเรื่องต่างๆให้ตั้งแต่เกิดเรื่องยันดึกๆ อันนี้ทำให้เชื่อว่าเค้าไม่ได้จบหน้าที่แค่ตอนซื้อแล้วจบๆไป เซลล์ที่ดีมีจริงๆนะ

ทำให้เข้าใจว่าบางทีอุบัติเหตุต่อให้เราระวังแค่ไหน แม่งเจอคนขับเxยๆ ความตายก็เข้ามาใกล้เราเหมือนกัน อยากบอกว่ารถที่ราคาแพงกว่าชาวบ้านบางทีมันมีเหตุผลของมัน ไม่ว่าจะโครงสร้างระบบความปลอดภัยหรือสมรรถนะมันมีเหตุผลจริงๆนะ ฟังค์ชั่นที่เคยคิดว่ามึงมีมาทำไม แต่เมื่อถึงวันที่ต้องใช้จริงๆ มันคุ้มค่าที่มันมี มีแล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าวันที่ต้องใช้แล้วมันไม่มี

บางทีอัตราเร่ง 0-100 ภายใน 3 วิมันอาจจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เพราะเวลาจะตายมันตายแค่เสี้ยววินาทีเดียว ระบบโครงสร้าง ความปลอดภัยในห้องโดยสาร ระบบช่วงล่าง เบรคต่างหากที่สำคัญเพราะมันคือตัวกำหนดความเป็นความตายของผู้โดยสารรถคันนั้น

ประสบการณ์เฉียดตายนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกเชื่อว่า VOLVO FOR LIFE แxงโxตรจริง มันยิ่งกว่า FOR LIFE มันคือ FOR LIVES ของจริง ทุกชีวิตปลอดภัยใน VOLVO ไม่ใช่แค่คำโฆษณาเกินจริงเลยด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายต่อให้วอลโว่ปลอดภัยแค่ไหนถ้าขับเร็วขับประมาทไม่ระวังยังไงก็ตายอยู่ดีนะ
ป.ล. ทั้ง 3 คัน รอดหมดไม่มีใครตาย เจ็บหนักสุดคือคนขับสิบล้อ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างมางัดออก
ป.ล. 2 ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆที่แสดงความรักความเป็นห่วงและความช่วยเหลือตอนเกิดเหตุขอบคุณในน้ำใจมากๆและโชคดีที่มีคนดีๆเหล่านี้อยู่ข้างๆเสมอ รักนะทุกคน รวมไปถึงพี่ๆกู้ภัยที่มาเร็วมาก 10-15 นาทีก็มาถึงแล้วช่วยปฐมพยาบาลให้
ดีใจที่ยังไม่ตายแล้วได้เจอกันอีก รู้สึกว่าเหมือนได้มาอีก 1up

ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ยังได้ระบุด้วยค่า สำหรับค่าชาร์จไฟระยะทางเกือบๆ 800 กิโล ค่าไฟ 738 บาท (ชาร์จตอน On Peak) และEmergency Call ของ Apple ใช้ได้ดีจริงๆนะมัน Detect การชนได้แล้วมันโทรหาเบอร์คนที่เป็น emergency contact ของเราได้ เปิดใช้เถอะ

“รีวิวนี้มาจากการใช้งานจริง ชนจริง เจ็บจริง แต่ไม่ตายจริง ถ่ายโดยกล้องหลัง ขับโดยข้าวโพด นั่งข้างๆคนขับคือปอง ลองไล่ๆดูรูปเอานะ vdo อยู่ท้ายๆ ส่วนคำถามยอดฮิตว่าเลขทะเบียนอะไรก็ 464 นะโต๊ดเต็งตามสะดวก
ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนปลอดภัยไม่ต้องฟาดเคราะห์กันมากนักก็ได้ ได้ตามรอย Analog Squad ที่ ร.พ. ตะกั่วป่าของจริง เอาวะ อย่างน้อยสิบล้อก็เอากxไม่ลง”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Khowpoad Jiradej