เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านสร้างพุ่ม หมู่ 9 ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ มีชาวบ้านนับ 10 ราย เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือจาก นายคำจัด บัลลัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสร้างพุ่ม เพื่อให้เจรจากับทางธนาคารชุมชนแห่งหนึ่ง ที่มีสมาชิก 800-900 คน ซึ่งหลังจากชาวบ้านนำเงินไปฝากไว้ระยะหนึ่ง เมื่อต้องการถอนเงินออกมาใช้จ่าย ปรากฏว่าฝ่ายสถาบันการเงินดังกล่าว กลับอ้างว่า “เงินหมด” ให้ถอนไปไม่ได้ สร้างความเดือดร้อนแสนสาหัสให้กับชาวบ้านเจ้าของเงินเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ก็ไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้

โดย นางช้อน เพ็งกระจาด อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนได้นำเงินไปเก็บออมฝากไว้ที่ธนาคาร เมื่อหลายสิบปีก่อน ต่อมาสถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวได้จัดตั้งขึ้นที่ใกล้บ้าน มีคนมาชักชวนตนก็เข้าใจว่า เป็นการฝากธนาคารเหมือนกัน ตนจึงได้ไปเบิกเงินปิดบัญชีจากธนาคารหลักออกมาทั้งหมด เพื่อนำมาฝากเก็บไว้กับธนาคารชุมชนดังกล่าว เพราะใกล้บ้าน คิดว่าเบิกถอนง่าย ไม่ยุ่งยาก จากนั้นก็ได้เก็บออมฝากเงินเรื่อยมา เดือนละ 300-500 บาท เป็นเงินที่หาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง เคยเบิกถอนไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ไม่เคยเบิกหรือถอนเลย จนปัจจุบันมีเงินฝากทั้งสิ้นอยู่ที่ 136,965.54 บาท

จนกระทั่งหลายเดือนที่ผ่านมา บ้านตนชำรุด จึงนำสมุดบัญชีไปถอนเงินมาซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง จำนวน 5 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีเงินให้ เงินหมดให้ทำยังไง ตนก็งงและตกใจ กลุ้มใจมากจนนอนไม่หลับเลย ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ เงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บเพื่อหวังว่าจะได้นำมาให้จ่ายและรักษาตัวเองตอนจำเป็น เป็นเงินก้อนเดียวและก้อนสุดท้ายในชีวิต เพราะตนอาศัยอยู่คนเดียวสามีและลูกเสียชีวิตไปหมดแล้ว

ขณะที่ นายวิรัตน์ บัลลัง อายุ 59 ปี ชาว ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ บอกว่า ตนเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน รับผิดชอบโรงน้ำชุมชน ได้นำเงินรายได้เก็บสะสม และเงินออม ประมาณกว่า 50,000 บาท มาฝากไว้กับธนาคารชุมชนแห่งหนึ่ง จนเมื่อช่วงปลายปี 2566 ก่อนปีใหม่ 2567 ทางกองทุนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนในกิจการ จึงเข้าไปเบิกเงิน แต่เจ้าหน้าที่กลับตอบว่า เบิกไม่ได้ เดี๋ยวถ้าพร้อมให้เบิกจะโทรฯหา แล้วก็เงียบไปจนถึงวันนี้

เช่นเดียวกับหลานชายของตน ซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนชุมชน ทางคณะครูช่วยนักเรียนเก็บออมเงินรายวัน วันละ 5-10 บาท รวบรวมเป็นเดือน และนำไปฝากเก็บให้เด็กๆ เพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาในอนาคต ซึ่งทั้งโรงเรียนมีนักเรียนอยู่ทั้งสิ้น 38 คน โดยหลานชายตน มีเงินเก็บกับสถาบันการเงินนี้แล้ว จำนวนกว่า 8,000 บาท รวมเงินออมเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนเป็นจำนวนเงินนับแสนบาท ซึ่งทางโรงเรียนจึงได้รวบรวมสมุดบัญชีเงินฝาก เพื่อจะได้เบิกเงินมาคืนให้กับเด็กนักเรียน แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถเบิกเงินได้ เจ้าหน้าที่แจ้งเช่นเดียวกันว่า ถ้ามีเงินเมื่อไหร่จะโทรฯหา

อยากฝากถึงกองทุนหรือสถาบันการเงินชุมชนดังกล่าวว่า เงินที่พวกตนนำไปฝากเป็นเงินพวกตนแท้ๆ ทำไมถึงไม่สามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายได้ และขอให้รีบแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน เพราะพวกตนไม่ได้ไปร้องขอกู้เงิน แต่พวกตนไปเบิกถอนเงินที่นำไปฝากไว้ ตอนนี้พวกตนเดือดร้อนมาก ต้องการเงินมาใช้จ่ายหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน เด็กนักเรียนก็จำเป็นต้องใช้เป็นทุนการศึกษา และซื้ออุปกรณ์การเรียน ทุกคนต้องการเงินที่สะสมไว้ เพราะเป็นเงินเก็บออม บางคนต้องอดกินขนม เพื่อให้ได้เงินออมมากๆ แข่งกันออม

ด้าน นายคำจัด บัลลัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสร้างพุ่ม หมู่ 9 เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวมีพี่น้องชาวบ้านในหมู่บ้านที่เดือดร้อนจากการเบิกถอนเงินจากสถาบันการเงินชุมชนแห่งหนึ่งไม่ได้ เลยพากันมารวมตัวร้องทุกข์ ตนในนามผู้นำหมู่บ้าน มองเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน เลยได้รับเรื่องไว้ เพื่อช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลช่วยเหลือ โดยเฉพาะ คุณยายช้อน ที่มีเงินฝากกับสถาบันการเงินชุมชนแห่งนี้ เป็นเงินกว่า 1 แสนบาท แต่กลับเบิกถอนเงินไม่ได้ ทั้งที่เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของคุณยาย.